เหตุผลที่ Starlink ของ Elon Musk เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวโลก
หลายคนคงได้ยินข่าวการเปิดจองใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ‘Starlink’ ของ Elon Musk กันมาบ้าง โดยมียอดจองทะลุ 5 แสนรายไปแล้ว! นี่มันอะไรกันทำไมผู้คนถึงแห่ไปอยากลองใช้ Starlink แล้วมันต่างอะไรกับอินเทอร์เน็ตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เราไปทำความรู้จักเจ้าเน็ตดาวเทียม Starlink กันหน่อยดีกว่าครับ
Starlink คืออะไร
Starlink คือ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมที่เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ หรือ Business Unit ที่พัฒนาโดย SpaceX ของ Elon Musk ซึ่งเจ้าตัว Starlink ได้ดึงศักยภาพของ SpaceX มาใช้ทั้งในการติดตั้งและยิงสัญญาณอินเทอร์เน็ตมาจากดาวเทียม ทำให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้พร้อมกัน โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น
การทำงานของ Starlink
ก่อนที่เราจะไปถึงการทำงานของ Starlink เราต้องเข้าใจวิธีการทำงานของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันก่อนว่าเทคโนโลยีที่เราใช้จะเป็น Submarine Fiber Optic Cable หรือสายเคเบิลเส้นใยนำแสงใต้น้ำที่สามารถทำให้เราพูดคุยสื่อสารกับผู้คนจากอีกฟากนึงของโลกได้ ผ่านการส่งสัญญาณ Router ไปยังสายไฟเบอร์ชนิดใยแก้วที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมาติดตั้งให้ แล้วออกไปทางประตูของประเทศไทย ไปใยแก้วใต้น้ำ แล้วเข้าประตูของประเทศปลายทาง ผ่านใยแก้วของผู้ให้บริการ เข้าสู่ Router แล้วจึงแสดงผลเป็นการสื่อสารกันผ่านหน้าจอ เห็นแบบนี้แล้วคิดเหมือนกันใช่ไหมครับว่ามันดูเป็นการเดินทางที่ไกล และดูจะจำกัด ยังไม่นับรวมถึงอาจเกิดปัญหาระหว่างการเดินทาง ทำให้สะดุด หรือที่เราเรียกว่า แล็ก (Lag) อีกด้วย
เอาเข้าจริง ๆ แล้วการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมก็ดูไม่ใช่เรื่องใหม่แกะกล่องขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านี้เราก็น่าจะเคยลองใช้กันมาบ้างแล้ว ซึ่งจะรู้ดีว่าในเรื่องของความเร็วมันก็ไม่ได้เสถียรมากมายนัก และยังมีค่า Ping สูง (ค่า Ping คือค่าเฉลี่ยของการตอบสนอง หรือความเร็วของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เรียกว่าถ้าคุณเป็นเกมเมอร์จะต้องมีหงุดหงิดอย่างแน่นอน
แต่การทำงานของ Starlink แตกต่างออกไป โดยตัวดาวเทียมจะถูกปล่อยขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศที่ต่ำกว่าดาวเทียมของผู้ผลิตเจ้าอื่น แปลว่า Starlink จะอยู่ใกล้โลกมากกว่าถึง 60 เท่า ส่งผลให้สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็ว แรง และมีค่า Ping ที่ต่ำ ซึ่งที่เขาว่าไว้จะอยู่ในระดับที่ต่ำมาก คือ ค่า Ping 20 ms – 40 ms และความเร็วที่ 50Mb/s – 150Mb/s และระหว่างนี้ก็ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ความเร็ว และค่า Ping ที่ดียิ่งขึ้น
ค่า Ping ต่ำ VS ค่า Ping สูง คืออะไร
ค่า Ping ยิ่งต่ำ ยิ่งดี เพราะจะทำให้การเล่นอินเทอร์เน็ตไหลลื่น ไม่มีสะดุด ในที่นี้ขอยกตัวอย่างสำหรับวงการเกม ค่า Ping ที่ต่ำกว่า 20 ms คือดีเยี่ยม สูงขึ้นมาอยู่ระหว่าง 50 ms – 100 ms คือดีมากถึงปานกลาง แค่ถ้าสูงตั้งแต่ 150 ms ถือได้ว่าเป็นค่า Ping ที่สูง และไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่
แน่นอนว่าสำหรับวงการเกมแล้ว สัญญาณอินเทอร์เน็ตนับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อการเล่นเป็นอย่างยิ่ง โดยหากมีค่า Ping ต่ำ ขณะที่เล่นเกมไม่ว่าจะเป็นเกมประเภทใดก็ตาม การถ่ายโอนข้อมูลก็จะทันการ เรียลไทม์ รับสัญญาณตอบสนองจากเซิร์ฟเวอร์ได้เร็วขึ้น การเล่นเกมก็จะได้เปรียบและราบรื่น แต่ถ้าค่า Ping สูงล่ะ? นอกจากจะเกิดอาการแล็กในเกมแล้ว เซิร์ฟเวอร์เกมบางประเภท ก็เลือกที่จะตัดการเชื่อมต่อของผู้เล่นคนนั้นไปเลยอัตโนมัติ
สิ่งที่ Starlink ทำ เพื่อแก้ปัญหา และแตกต่างจากอินเทอร์เน็ตธรรมดา
เมื่อพูดถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแล้ว เกือบทุกคนคงคิดใช่ไหมครับว่ากลุ่มเป้าหมายของเขาจะเป็นใครก็ได้บนโลกที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ต ก็อาจจะใช่…แต่กับ Starlink มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาอยู่ 2 อย่าง คือ อยากให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกในราคาไม่แพง และลดค่า Ping หรือพวกความหน่วงของอินเทอร์เน็ตลง
Starlink จะเข้ามาเติมเต็ม ตอบโจทย์ให้กับกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีบนโลกกว่า 3 พันล้านคนเลยทีเดียว! เพราะกลุ่มคนที่อาศัยในเมืองใหญ่ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อยู่แล้วก็คงไม่มีความจำป็นจะต้องใช้ Starlink ลองคิดเล่น ๆ ดูว่าถ้า Starlink แก้ไขปัญหานี้ได้ นี่อาจจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มากโขเลยล่ะ
แต่ก็อย่างที่เราบอกไปว่าอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้ธุรกิจที่ใช้จะมีเพียงพวกธุรกิจการบิน หรือเรือเดินสมุทร เท่านั้น ไอ่คนตัวเล็ก ๆ หรือธุรกิจรายย่อยลงมาคงเข้าถึงได้ยากพอสมควร ซึ่ง Starlink สร้างความแตกต่าง และขจัดปัญหาเหล่านี้ได้
- Starlink สามารถทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้ทั่วโลก มีความเร็วสูง ค่า Ping ต่ำ
- Starlink จะเข้าถึงทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะห่างไกล อินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึงแค่ไหนก็ตาม รวมถึงพื้นที่ที่โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ไม่เอื้ออำนวย
- Starlink จะทำให้ในพื้นที่ที่มีค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่สูง จนผู้คนไม่สามารถเข้าถึง สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้
- Starlink จะเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมความเร็วสูงเจ้าแรกที่เข้าถึงได้ง่าย และเป็นราคาที่ทุกคนยอมรับ
โดยทาง Elon Musk ได้วางแผนเกี่ยวกับ Starlink ไว้อีกว่าในอนาคตจะสร้างเป็นอุปกรณ์ไร้สาย และสามารถพกพาเพื่อเชื่อมต่อได้ ไม่จำกัดเพียงแต่ต้องเป็น Router เท่านั้น เพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานที่ไหน เวลาไหนก็ได้
ซึ่ง ณ ขณะนี้ Starlink เปิดให้สั่งจองใช้งานแล้วในราคา $99 หรือประมาณ 3,000 บาท ต่อเดือน โดยมีค่าอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อดาวเทียม Starlink ขาตั้งตัวรับสัญญาณ และ WiFi Router อีก $499 หรือราว 15,000 บาท แต่น่าจะเริ่มใช้งานได้ในปี 2022 ต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไปอีกนะครับว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ได้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ไร้ข้อจำกัดขึ้นอีกระดับแบบนี้แล้ว ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า Starlink อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในอนาคต คำว่า ‘แถวนี้ไม่ค่อยมีสัญญาณเลย’ อาจเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยอีกต่อไป และหากในทุกพื้นที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เป็นผลตามมาอาจจะเป็นทางออกของหลายปัญหา เช่น การเข้าถึง Telemedicine, เรียนออนไลน์, คดีอาชญากรรม, เป็นต่อในด้านกีฬาอีสปอร์ต รวมไปถึงความบันเทิงอีกมากมาย บ้านเมือง ถนนหนทางอาจจะสวยขึ้น ไร้เสาสัญญาณไปเลยก็เป็นได้