The End of the F***ing World 2
โลกห่วย ๆ กลับมาช่วยหรือซวยกว่าเดิม ?
เมื่อปี 2017 ซีรีส์วัยรุ่น Original Series ของ Netflix อย่าง ‘The End of the F***ing World โลกมันห่วย ช่วยไม่ได้’ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจนต้องผลิต Season 2 อย่างต่อเนื่อง โดยทิ้งระยะห่างไปสองปี กว่าจะฉาย The End of the F***ing World 2 ในปี 2019 นี้ ซึ่งทำให้เหตุการณ์ Skip มาเป็นสองปีให้หลังนับจากภาคแรก หากอยากรู้ว่าโลกห่วย ๆ ที่ได้สร้างบาดแผล ความบอบช้ำ และความทรงจำอันเลวร้ายให้กับตัวละครจะถูกยึดติดมายันภาคนี้ได้ตลกร้ายสักแค่ไหนต้องตามไปดูพร้อมกัน
จุด (เหมือน) จบของโลกห่วย ๆ นี้
The End of the F***ing World โลกมันห่วย ช่วยไม่ได้ ซีรีส์ตลกร้ายที่ดัดแปลงมาจากมินิคอมมิค เป็นเรื่องราวของเจมส์และอลิสซา เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นจากทั้งคู่พากันหนีออกจากบ้าน เกิดความวุ่นวายจากจุดเล็ก ๆ ลามไปเป็นปัญหาใหญ่ถึงขั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาจัดการ โดยตอนจบของโลกห่วย ๆ ในภาคแรกได้ทิ้งบาดแผล และความทรงจำที่เจ็บปวดเอาไว้ อลิสซา ที่เกือบถูกศาสตราจารย์ไคลฟ์ข่มขืน และในตอนจบยังต้องสูญเสีย เจมส์ เพราะเขาดันเข้ามาช่วยด้วยการยิงศาสตราจารย์ตาย จนถูกตำรวจไล่ล่าและโดนยิงในที่สุด ทำให้เรื่องราวใน The End of the F***ing World 2 เปิดฉากด้วยความเจ็บปวดที่ยึดติดมาจากเหตุการณ์เหล่านี้
Alyssa
อลิสซายังคงติดอยู่กับความเจ็บปวด ความรู้สึกหลังจากสูญเสียเจมส์ไป เธอหลอกตัวเองมาตลอดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่ความจริงเธอยังเห็นภาพในอดีตที่เคยใช้เวลากับเจมส์ผุดขึ้นมาในหัวอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเธอตัดสินใจแต่งงานกับชายอื่นโดยไม่ได้รักไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อเธอได้พบกับเจมส์อีกครั้ง เหตุการณ์และความรู้สึกเก่า ๆ ก็กลับมา รวมถึงเรื่องที่บ้านของศาสตราจารย์ไคลฟ์ เรียกว่าปิดฉากได้ไม่สวยนักสำหรับเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่ต้องเจอการคุกคามทางเพศและฆาตกรรม แต่เธอมีความกล้าและเลือกกลับไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ จนปลดล็อกความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจได้สำเร็จ
James
เจมส์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากในตอนจบภาคแรกที่ดูเหมือนเขาจะถูกยิงตาย แต่เขากลับรอดและอาการที่ทำให้เขาต้องพูดกับตัวเองว่า ‘ผมรู้สึกเหมือนโดนลงโทษ’ แต่เขายังมีพ่อคอยดูแลและพยายามจะเป็นพ่อที่ดีขึ้นจากภาคแรก ซึ่งชื่อซีรีส์ก็บอกอยู่แล้วว่า โลกมันห่วย ช่วยไม่ได้ แล้วมันก็ห่วยสมชื่อจริง ๆ จึงได้พรากพ่อของเขาจากไปด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เจมส์ยึดติดกับอดีตมากจนไม่กล้ากลับเข้าบ้านและพกเถ้ากระดูกของพ่อติดตัวไปด้วยทุกที่ เขาจึงตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ในรถยนต์แทน ความรู้สึกที่เขาแบกไว้ยังมีเรื่องที่แม่ของอลิสซามาขอร้องให้เขียนจดหมายว่าอย่าเจอกันอีก แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแต่เขาก็เลือกจะปล่อยเธอไปเพื่อป้องกันไม่ให้เธอต้องมาเจอเรื่องซวย ๆ อีก เกิดเป็นความรู้สึกอึดอัดใจที่ไม่สามารถเจอคนที่ตัวเองรักได้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์เอะใจเกิดขึ้นทำให้เขาต้องออกตามหาอลิสซาอีกครั้ง
Bonnie
บอนนี่ ตัวละครที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน The End of the F***ing World 2 บทบาทของเธอเข้ามาสร้างความวุ่นวายต่าง ๆ โดยภาคนี้ได้ปู Background ให้เห็นภาพตั้งแต่ตอนแรก บอนนี่เติบโตมาในครอบครัวที่เข้มงวด มีแม่บงการชีวิตเธอทุกอย่าง แต่สุดท้ายพ่อก็มาทิ้งเธอไปอีกคน ทำให้เธอโตมาแบบขาดความรัก ความเข้าใจ จนเธอรู้สึกการได้รับความรักจากศาสตราจารย์ไคลฟ์ โดยไม่รู้เลยว่านั่นไม่ใช่ความรักที่แท้จริง และเธอก็เลือกฆ่าคนเพื่อศาสตราจารย์ ติดคุกอยู่นานหลายปี จนได้ออกมาแล้วพบว่าศาสตราจารย์ตายด้วยน้ำมือของเด็กวัยรุ่นอย่างอลิสซาและเจมส์ แต่เมื่อเธอได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้นและรู้ว่าอลิสซาก็ยังติดอยู่กับฝันร้ายนี้เช่นกัน จึงยอมปล่อยอลิสซาและเจมส์ไป
ถ้าใครที่ได้ดู โลกมันห่วย ช่วยไม่ได้ ในภาคแรกไปแล้ว ต้องตอกย้ำความห่วยนี้อย่างต่อเนื่อง The End of the F***ing World 2 ติดตามบาดแผลและความทรงจำเจ็บปวดที่ตัวละครแบกเอาไว้ สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าความเจ็บปวดของอีกคนจะต้องเยียวยายังไง เราต้องหาทางออกด้วยตัวเองให้ได้ เพื่อมีชีวิตอยู่บนโลกพัง ๆ นี้ต่อไป
