เอาตัวรอดยังไง? เมื่อต้องทำงานกับ Toxic People ในออฟฟิศ
หากคุณกำลังประสบกับสถานการณ์ Toxic Workplace อยู่ ขอให้รู้ไว้ก่อนเลยว่ามันเกิดขึ้นได้จากทั้งบรรยากาศการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร รวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน ซึ่งปฏิเสธได้ยากว่าปัญหาเรื่อง ‘คน’ ก็มักเป็นที่สุด ‘แห่งการย้ายงาน’ จริงไหมล่ะครับ เพราะแบบนี้เราจึงต้องรู้วิธีรับมือกับ Toxic People ในที่ทำงาน เพื่อที่อย่างน้อยก็อาจจะขับเคลื่อนความอดทนให้ยืดออกไปได้อีกสักหน่อย แค่ขอพื้นที่ให้ได้หายใจหายคอกันบ้างก็ยังดี
แต่ก่อนที่เราจะไปถึงการให้คำแนะนำเพื่อรับมือกับ Toxic People เราจะต้องรู้ว่าคนแบบไหนที่เป็น Toxic People สำหรับเราให้ได้ก่อน เพราะมันไม่ใช่ทุกคนในที่ทำงานจะเป็นพิษไปเสียหมด และก็ไม่ใช่ว่า Toxic People ของคนอื่น จะเป็น Toxic People ของเราด้วย
การแสดงออกของ Toxic People ในที่ทำงาน
Toxic People ก็เป็นหนึ่งใน Toxic Workplace และมนุษย์จำพวกนี้ก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันไป แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะสังเกตได้จากสิ่งเหล่านี้
การสื่อสารที่ไร้คุณภาพ (Bad Communication)
ในโลกแห่งการทำงาน การสื่อสารกัน ให้-รู้-เรื่อง เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการเกิด Toxic Workplace ได้ ซึ่งการสื่อสารมันก็มาจากคนทั้งนั้น ลองคิดดูว่าถ้าเราสื่อสารกันรู้เรื่อง เข้าใจในสิ่งที่กำลังจะทำ การดำเนินงานมันจะ flow ขนาดไหน แต่ในโลกแห่งความจริงมันไม่ง่ายเลยที่จะเจอคนที่พูดรู้เรื่อง เพราะส่วนใหญ่แล้วเราก็มักรู้สึกว่าคนนี้เป็น Toxic People จากคำพูดที่ใช้สื่อสารแล้วมัน ไม่รู้เรื่อง นี่แหละ ยกตัวอย่างสถานการณ์ชวนปวดหัว เมื่อพี่ในทีมมาบรีฟงานโดยที่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจ ทำให้ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ ถามอะไรไปก็ตอบกลับแบบงง ๆ บอกแต่ว่าลองทำมาดูก่อน สุดท้ายก็บอกว่า ที่บรีฟผิดไป ขอโทษด้วยแล้วกัน ส่วนที่บรีฟใหม่พี่ขอเลยนะ เจอแบบนี้เข้าไปก็คงประสาทแ_กเอาเรื่องเลยนะครับ
พยายามควบคุม (Manipulate)
ส่วนใหญ่แล้ว Toxic People จะพยายามควบคุม ไม่ว่าจะเป็นทางตรง ทางอ้อม ทางเลี้ยว ขึ้นทางด่วน หรือซอกแซกแค่ไหนก็ตาม ขอแค่ควบคุมและได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ บ้างก็มาในรูปแบบ เรียกร้องความเห็นใจ หรือ พยายามดึงให้เป็นพวกเดียวกับตัวเอง รวมถึงเป็นจอมบงการที่เปิดฟิลเตอร์ มิตรภาพ ขึ้นมาอ้าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองหมายปอง
ตัดสินคนอื่น (Judgement)
Toxic People ประเภทนี้เปรียบเสมือนคนมีความคิดน้ำเต็มแก้ว อะไรที่ตัวเองคิดว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่ยอมรับ ไม่อ่อนข้อต่อใด ๆ ทั้งปวง และคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ก็มีโอกาสนำไปสู่ การมีความคิดแบบเหมารวม (Stereotype) ที่ถูกสั่งสมมานานจนทำให้เกิดมาตรฐานอิหยังวะขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นแบบนั้นสักหน่อย ซึ่งความป่วนประสาทอาจตามมาในรูปแบบของ คำแนะนำที่ยกเอาคำว่า ‘พูดตรง ๆ’ มาใช้ เพื่อที่จะพูดอะไรก็ได้โดยไม่แคร์ความรู้สึกของอีกฝ่าย สร้างความรู้สึกเป็นพิษแก่ผู้ฟังเอามาก ๆ
ทำงานเอาหน้า (Ostentatious)
Toxic People ประเภทเห็นคนอื่นดีกว่าตัวเองไม่ได้ จนเกิดเป็นความพยายามที่จะไขว่คว้าเอาทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เอาหน้า นั่นแหละ โปรเจกต์ทีมไม่เคยมา แต่นำเสนองานต่อหน้านายไม่เคยพลาด หรือเป็นประเภทอยากได้ผลงานของคนอื่นไปเป็นของตัวเอง ซึ่ง Toxic People ในกรณีนี้ก็มาได้ในหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นเพื่อนหรือพี่ที่จ้องจะเอางานของเราไปเป็นของตัวเองอยู่เรื่อย
ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกว่า พฤติกรรมเหล่านี้ให้ความรู้สึกว่า คน ๆ นั้นเป็น Toxic People เพราะทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้พูดและบริบทด้วย เรามองว่า ความรู้สึกที่จัดว่าใครสักคนเป็น Toxic People ก็เหมือนกับเวลาที่คุณกำลังตัดสินว่านาย A กำลัง Bully นาย B ทั้ง ๆ ที่นาย B อาจจะไม่รู้สึกว่าโดน Bully ก็ได้ แต่สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ คือ รู้สึกแทนนาย B นั่นเอง เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นว่า Toxic People ของเรา จะต้องเป็น Toxic People ของคนอื่นตามไปด้วย
3 คำแนะนำ รับมือ พร้อมสร้างภูมิคุ้มกัน
กับมนุษย์ Toxic People ในที่ทำงาน
1. หลีกเลี่ยงการปะทะกับ Toxic People
ในเมื่อเจอกันแล้วมันเป็นพิษ ก็แค่หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ต้องปะทะกับ Toxic People โดยตรง หากจำเป็นจริง ๆ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็มีเยอะแยะจะส่งอีเมลไปเลยก็ได้ ทางการดีออก หรือถ้าคุณเจอสถานการณ์ที่ Toxic People มาในรูปแบบของการสื่อสารด้วยข้อความ ก็เดินไปหาเลย คุยมันต่อหน้านี่แหละเผื่อจะดีขึ้น ประเด็นก็คือหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคนนี้เป็น Toxic People นั่นแหละครับ
2. ฉลาดทางคำพูด อย่ากลายเป็น Toxic People เสียเอง
คำพูด เป็นเรื่องที่ควรระวังมากที่สุดไม่ว่าจะกับใครก็ตาม คงจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘คนพูดมักพูดไม่คิด แต่ คนฟังมันจำไม่ลืม’ หาก Toxic People ที่คุณเจอมาในรูปแบบของคนที่ไม่ฉลาดทางคำพูด หรือง่าย ๆ ก็ พวกที่พูดไม่คิด น่ะ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องไปต่อล้อต่อเถียง หรือใช้ชุดคำพูดในทางเดียวกับเขาเลย เพียงแค่คุณ ‘ช่างมัน’ ไม่ต้องใส่ใจ แล้วสวมบทบาทให้ตัวเองเป็นหมอดูไพ่ทาโรต์ (ที่ไม่ใช่หมอเดา เอาเข้าจริงแล้วอ่านไพ่ง่ายกว่าใช้ความคิดเดาไปเรื่อยอีก) ใช้ทักษะการอ่านไพ่ที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะเป็นคนเลือกให้ความหมายกับมัน (คิดก่อนพูด แบบไม่ทำให้คนอื่นเจ็บปวด) ไม่ใช่การบอกไปตรง ๆ ว่าเดี๋ยวจะมีใครตาย เลือกใช้ประโยคที่แคร์ความรู้สึกของผู้ฟังแล้วเราก็ได้ในสิ่งที่ต้องการด้วย
เพราะบนโลกมีวิธีพูดตั้งมากมายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อย่าไปเลือกใช้ชุดคำพูดที่ทำลายความรู้สึกของคนอื่นเลย หากคุณมอง Toxic People คนนั้นไว้เป็นตัวอย่าง เพื่อเตือนสติไม่ให้กลายเป็นคนที่ตัวเองเคยไม่ชอบ คุณจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างสวยงามและเข้าใจโลกมากขึ้น
3. อย่าเอาความรู้สึกจาก Toxic People กลับบ้าน
แก้ไขที่คนอื่นไม่ได้ก็เปลี่ยนที่ตัวเราเอง ด้วยการ Reset ตัวเองหลังเลิกงานทุกวัน อย่าเอาความรู้สึกติดลบจาก Toxic People ในที่ทำงานกลับมาที่บ้าน เรื่องของวันนี้ก็ให้มันจบที่วันนี้ ถอดปลั๊กแล้วกลับไปพักผ่อนซะ วันไหนที่คนอื่นใจร้ายกับคุณ คุณต้องหันมาใจดีกับตัวเองเสมอ เลือกกินของอร่อย ๆ ฟังเพลงที่ชอบ อ่านหนังสือเล่มที่รัก เพราะทันทีที่ปิดคอมลง คุณจะต้องกลับไปหาครอบครัวและใช้เวลาร่วมกันอย่างไร้ความกังวลจาก Toxic Workplace อย่าให้ไฟมันร้อนไปถึงที่บ้านเลยครับ ร้อนเปล่า ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เราก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเจอกับ Toxic People ในที่ทำงาน และถ้าใครรู้สึกว่ามันหมดไฟ ขี้เกียจแบบไม่ไหวแล้ว เรามีตัวช่วย (คลิก) วิธีขจัดความขี้เกียจ พร้อมเติมพลังบวกให้ชีวิต แต่หากลองมองย้อนกลับไปบางทีตัวเราเองก็อาจเผลอไปเป็น Toxic People ของคนอื่นโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ถ้ารู้ตัวว่าพูดอะไรที่ทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดีก็แค่พกคาถา ‘ขอโทษ’ ติดปากเอาไว้ มันอาจเป็นเข็มฉีดยารักษาความสัมพันธ์ในที่ทำงานให้คุณก็ได้นะครับ