Search
Close this search box.
วิธีขจัดความขี้เกียจ

อยากขยันกว่าเดิมต้องรู้ “วิธีขจัดความขี้เกียจ” ให้ถึงต้นตอ

แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ชีวิตแห่งการทำงานแล้ว มันก็ต้องมีบ้างที่เราจะเกิดความรู้สึกขี้เกียจ แต่ใครกันจะชอบที่ตัวเองขี้เกียจแบบนี้ ฉะนั้น เรามาหาวิธีขจัดความขี้เกียจกันดีกว่า แต่ก่อนอื่น…เราต้องรู้ว่าความขี้เกียจที่เกิดขึ้นนั้นมาจากสาเหตุอะไร แล้วค่อยหาวิธีขจัดความขี้เกียจนั้นออกไป เพราะความขี้เกียจไม่ใช่นิสัยที่ควรจะมีเลย ว่าไหมครับ

ความขี้เกียจ เกิดขึ้นได้ยังไง ?

วิธีขจัดความขี้เกียจ

1. อ่อนเพลีย เครียด พักผ่อนน้อย บ่อเกิดของความขี้เกียจ

จากหนังสือ Work to Live: The Guide to Getting a Life ได้กล่าวเอาไว้ว่า เราจำเป็นต้องตัดสิ่งที่เป็นตัวการของความเครียดออก เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายบ้าง ซึ่งการทำงานวีคละ 48 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยวันละ 9 – 10 ชั่วโมงนั้นหมายความได้ว่า เรากำลังเพิ่มความเครียดขึ้นเป็น 2 เท่า และพอเรามีความเครียด ก็อาจส่งผลให้นอนไม่หลับ ตื่นมาไม่สดใส คล้ายว่าอ่อนเพลีย ทีนี้ล่ะ เราก็จะเริ่มรู้สึกมีความขี้เกียจมาครอบงำนั่นเอง

2. ความขี้เกียจที่เกิดจากความอยากสบาย

‘ขยันวันนี้ สบายวันหน้า แต่ถ้าขี้เกียจวันนี้ สบายวันนี้เลย’ ประโยคปลอบหรือหลอกให้ตัวเองสบายใจไปก่อน หลายคนจึงเลือกที่จะผัดวันประกันพรุ่ง เพื่อยืดเวลาแห่งความสุขออกไปอีก แต่ในอีกมุมนึงความสบายหรือความสำเร็จในชีวิตที่กว่าจะได้มานั้น เราคงต้องทุ่มเทมากกว่าปกติ โดยทางเลือกก็มีอยู่ไม่กี่ทาง ถ้าไม่ทุ่มสุดตัว ก็ ไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วเวลาตัดสินใจว่าจะทุ่มสุดตัวแต่สิ่งนั้นกลับไม่มีอะไรมารับประกันความทุ่มเทของเราได้ก็มักทำให้เกิดความกังวลว่าผลลัพธ์อาจออกมาแล้วไม่คุ้มค่า หรือกลัวว่ามันจะล้มเหลวนั่นเอง เลยทำให้เรามักจะเลือกทางที่ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะรู้สึกว่าไม่ทำก็ไม่เสีย หรือทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นความขี้เกียจนั่นเอง

3. เบื่อหรือขาดแรงจูงใจทำให้เกิดเป็นความขี้เกียจ

ความเบื่อหน่ายที่เรากำลังรู้สึกอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น เบื่องาน เบื่อคน เบื่อรถติด ไม่ชอบบรรยากาศออฟฟิศ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้รู้สึกซังกะตาย มันก็บั่นทอนจิตใจเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความขี้เกียจเข้าใกล้เราได้ง่ายที่สุดแล้ว

ขี้เกียจนักใช่ไหม? ลองนี่… 
6 วิธีขจัดความขี้เกียจ พร้อมเติมพลังบวกให้ชีวิต

วิธีขจัดความขี้เกียจ

1. เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเริ่มทำวิธีขจัดความขี้เกียจ

หากช่วงนี้คุณเริ่มที่จะหิวการนอน นอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ อาหารไม่ย่อย เหงื่อออกตอนกลางคืน หรือคิดอะไรไม่ค่อยออก ขอให้คุณรู้ไว้เลยว่านี่แหละเป็นสัญญาณของความอ่อนเพลีย ร่างกายไม่พร้อม Start ทำให้ขี้เกียจอยู่ตลอด ซึ่งวิธีขจัดความขี้เกียจเหล่านี้ก็ง่ายอย่างที่นักธรรมชาติบำบัด จากหนังสือ Revive: How to Overcome Fatigue Naturally ได้บอกเอาไว้เลยว่าควรทำสิ่งต่อไปนี้

  • ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย หรือเพียงขยับแข้งขยับขา เดินเร็วสักประมาณ 20 – 40 นาที จะช่วยลดความอ่อนเพลียได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่สามารถขจัดความขี้เกียจทางร่างกายได้แล้ว จิตใจก็จะเริ่มสดใสพร้อมจัดการธุระในชีวิตต่อได้
  • อาหารเช้าคือสิ่งสำคัญ ต้องกิน ห้ามงด และควรกินอาหารที่มีเส้นใยสูง มีโปรตีน ที่สำคัญต้องไม่หวาน เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ป้องกันไม่ให้ร่างกายอ่อนเพลียและรู้สึกหิวเร็ว พร้อมช่วยกระตุ้นสมองให้มีสมาธิ จดจ่อและจดจำได้ดีขึ้น
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกาย เพียงวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียทำงานได้ดีขึ้น และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ตามหลังชาหรือกาแฟที่ดื่มเสมอ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปจากการดื่มกาแฟ

2. วิธีขจัดความขี้เกียจให้ถึงต้นตอ

  • ความขี้เกียจที่เกิดจากความเหนื่อย พยายามปล่อยวาง หรือเสียสละกับงานบางอย่าง หากมันอยู่ในตารางเวลาที่ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้พักผ่อนเลย เชื่อเถอะว่าเมื่อเรากินอิ่ม นอนหลับ เรื่องเบสิกแบบนี้จะสามารถช่วยชาร์จพลัง และขจัดความขี้เกียจออกไปได้
  • ขาดแรงบันดาลใจก็เลยเกิดเป็นความขี้เกียจ ลองหยุดทำทุกอย่างสักพักแล้วหันกลับมาทบทวนตัวเองว่าเรากำลังทำอะไร แล้วทำเพื่ออะไร หรือลองพาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ พูดคุยกับเพื่อน หรือรุ่นพี่ ที่สามารถให้คำแนะนำในสิ่งที่เราต้องการได้ และอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยเติมเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดีเลยก็คือ การอ่านหนังสือ เพราะในหนังสือทุกเล่มมักจะเล่าประสบการณ์ หรือแนวคิดที่แตกต่างกัน ทำให้เราได้ย้อนกลับมาคิดอะไรหลายอย่างได้เยอะเลยทีเดียวล่ะครับ
  • งานท่วมท้น ไร้ระเบียบ ความขี้เกียจก็มาเยือนสิครับ ยิ่งงานเยอะก็ทำให้วุ่นวายไปหมด จึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกขี้เกียจมากขึ้น ทางออกคือ ลองถอยออกมาสักก้าวนึงก่อน แล้วจัดระเบียบชีวิตไปทีละเรื่อง ทำทีละอย่าง เมื่อทำเสร็จไปอย่างนึงแล้วเราจะรู้สึกโล่ง และพร้อมที่จะเคลียเรื่องต่อ ๆ ไป ส่วนงานที่ค้างอยู่ก็โน้ตเอาไว้ให้ชัดเจน เมื่อไหร่ที่ความวุ่นวายลดลง เราจะเกิดความกระหายงานมากยิ่งขึ้นเอง
  • ความขี้เกียจที่มาจากความกลัว ความคิดไปต่าง ๆ นา ๆ อาจทำให้เราเกิดความกลัวได้ เช่น กลัวล้มเหลว กลัวไม่แฮปปี้ หรืออะไรก็ตามแต่ สิ่งที่เราคิดพวกนี้เป็นเหมือนพลังขั้วลบที่ทำให้ความขี้เกียจมาสิงร่างเรา แต่ถ้าหากเรื่องที่กำลังกังวลอยู่ แล้วคุณคิดว่าถ้าอดทนอีกนิดจะส่งผลดีต่ออนาคต อาจลอง take a risk หรือลองเสี่ยงกับมันดูสักตั้ง อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ ดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยคุณยังไม่ได้แม้แต่จะสัมผัสเลย

3. เปิดใจ และ รัก ในสิ่งที่ทำ ช่วยขจัดความขี้เกียจได้

เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่รักแล้วบวกเข้ากับการเป็นตัวของตัวเอง แน่นอนว่ามันจะนำพลังงานบวกและความคิดสร้างสรรค์มาให้ในชนิดที่ไม่มีวันหมด แต่ในชีวิตจริงแล้วคงไม่โชคดีแบบนี้กันทุกคน อาจต้องทำเพื่อความอยู่รอดหรือเป็นหน้าที่ แบบนี้เราก็ต้องมาปรับความคิดกันสักนิดเพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างแฮปปี้หรืออย่างน้อยก็ไม่แย่ไปกว่านี้ ลองค้นหาข้อดีแล้วเปิดใจให้สิ่งที่ทำจะช่วยให้เรามีแรงขึ้น จนในที่สุดก็ไล่ความขี้เกียจออกไปได้

4. แก้ความขี้เกียจด้วยการคุยกับตัวเอง ก็เวิร์กเหมือนกันนะ

การคุยกับตัวเองส่งผลดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว นอกจากจะช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าชอบหรือต้องการอะไรแล้ว หากเราคุยกับตัวเองในเชิงบวกยังจะทำให้การทำงานเป็นเชิงบวกตามไปด้วย และนี่แหละที่ทำให้เราเรียนรู้และตัดสินใจได้ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้ขยันกว่าเดิม

การคุยออกเสียงกับตัวเองจะช่วยลดความเครียด และย้ำให้เรามีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำมากขึ้น

5. ดีลกับความขี้เกียจไปเลย ตรง ๆ

มนุษย์เราก็มีความโลภด้วยกันทั้งนั้น อยากได้ทั้งงานที่เสร็จและความสบายปนขี้เกียจด้วย แบบนี้ก็ทำข้อตกลงกับความขี้เกียจมันซะเลย เช่น

  • ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่า ถ้าวันนี้คิดงานได้จะอนุญาตให้ตัวเองขี้เกียจ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด
  • ต่อรองกับความขี้เกียจว่า…จะขี้เกียจให้เสร็จ ตามใจตัวเองได้ตามเวลาที่เหมาะสม แล้วค่อยกลับมาสะสางสิ่งที่ต้องทำ ให้เรียบร้อย เพราะเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เราจะได้สิ่งที่ควรได้ และเสียบางอย่างที่สมควรจะเสียเช่นกัน
  • ตกลงกับความขี้เกียจไปเลยว่า โอเค…เราจะตามใจมันก็ได้ โดยตัดสิ่งที่สิ้นเปลืองเวลา และยังไม่สำคัญออกไปก่อน แล้วใช้เวลาเสพสุขช่วงขี้เกียจนี้ให้เต็มที่ หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที

6. วิธีขจัดความขี้เกียจ คิดถึงความฉิบหายเข้าไว้

ถ้าลองทำทุกอย่างแล้ว หรือรู้ตัวว่าทำข้อที่กล่าวมาไม่ได้แน่ ๆ นี่คือเคล็ดลับท่าไม้ตายช่วยขจัดความขี้เกียจได้ดี! คือ คิดถึงความฉิบหายที่จะเกิดขึ้นหากคุณขี้เกียจ ลองคิดดูว่ามันจะส่งผลกระทบร้ายแรงแค่ไหน ถือเป็นไม้แข็งที่จะช่วยปลุกให้คนขี้เกียจ ๆ อย่างเราตื่นขึ้นมาได้ในทันทีเลยล่ะครับ

ผมมักจะเลือกคนขี้เกียจให้ทำงานยาก ๆ อยู่เสมอ เพราะพวกเขาจะหาวิธีที่ง่ายที่สุด ในการจัดการกับมัน

ความรู้สึกขี้เกียจไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะครับ แค่ขอให้เรารู้ตัวว่ากำลังมีมันอยู่ แล้วใช้วิธีขจัดความขี้เกียจนี้ออกไปให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้ถึงจุดที่ว่า ‘จากงานที่อยากทำ กลายเป็นงานที่ต้องทำ’ ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะยูเทิร์นกลับมายาก ลองมาหาวิธีที่จะ ผัดวันประกันพรุ่งอย่างไรให้งานเสร็จ (คลิก) จะดีกว่านะครับผม

SHARE

RELATED POSTS