ไวน์แดง 101 เทคนิคเบสิกการเลือกไวน์แดงให้คุ้มค่าที่สุด
ไวน์แดง เป็นหนึ่งในรูปแบบของไวน์ที่ผู้คนนิยมดื่มกันอย่างแพร่หลายทั้งในงานสังสรรค์กันในครอบครัวไปจนถึงเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งความพิเศษของไวน์แดงอยู่ที่รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความแตกต่างกันในแต่ละขวดก็อาจทำให้ผู้ดื่มมือใหม่สับสนจนไม่รู้ได้ว่าต้องเลือกดื่มไวน์แดงแบบไหนถึงจะคุ้มราคาที่จ่ายไปได้มากที่สุด วันนี้ Thomas จะมาบอกเทคนิคเบสิกการเลือกไวน์แดงอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุดกันครับ
1 – พันธุ์องุ่นที่นำมาทำไวน์แดง
ข้อสำคัญเลยคือ เราต้องรู้จักพันธุ์ขององุ่นที่นำมาทำไวน์ก่อนนะครับ เพราะไวน์แดงและไวน์ขาวผลิตจากองุ่นคนละสายพันธุ์กัน ความจริงแล้วสายพันธุ์ที่นำมาทำไวน์แดงมีมากมาย แต่หลัก ๆ ที่เราจะพบเจอได้บ่อย ๆ จะมีดังนี้ครับ
- Cabernet Sauvignon (กาแบร์เน โซวีญง) – เป็นสายพันธุ์องุ่นไวน์แดงยอดนิยม ปลูกมากที่สุดในโลก ไวน์แดงจากสายพันธุ์นี้ให้รสชาติที่เต็ม แน่น มี Tannin สูง ให้โน๊ตของผลไม้ตระกูลเบอร์รี และพริกไทย
- Merlot (แมร์โล) – นิยมปลูกรองลงมาจากพันธุ์แรก แหล่งปลูกแต่ละพื้นที่ให้รสชาติแตกต่างกัน หากปลูกในพื้นที่อากาศเย็น ไวน์แดงจะมี Tannin สูง แต่หากปลูกในพื้นที่มีสภาพอากาศอบอุ่นก็จะมี Tannin ต่ำ
- Pinot Noir (ปิโนต์ นัวร์) – ให้รสชาติที่นุ่มนวล สัมผัสเบาบาง มี Tannin น้อย มีโน๊ตผลไม้จำพวกเบอร์รี ราสเบอร์รี และแครนเบอร์รี แต่เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกยาก อาจทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง
- Syrah หรือ Shiraz (ซีราห์ หรือ ซิราซ) – องุ่นสายพันธุ์นี้แตกต่างด้วยรสชาติที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามแหล่งปลูก หากปลูกในพื้นที่เขตร้อนจะมีสีเข้มและให้รสชาติที่หนัก มีความนุ่มนวล แม้ Tannin จะต่ำ แต่หากปลูกในพื้นที่หนาวเย็นจะมีรสชาติเข้มมาก Tannin สูง และมีโน๊ตความเผ็ดร้อนของพริกไทย
- Malbec (มาลเบ็ค) – มีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศส นิยมปลูกในประเทศอาร์เจนตินา ชิลี แอฟริกาใต้รวมถึงออสเตรเลีย เป็นองุ่นที่มีสีม่วงเข้ม ให้รสชาติที่ซับซ้อนของผลไม้ ช็อกโกแลต และดอกไวโอเล็ต เป็นไวน์แดงที่ถือว่าดื่มง่าย
* Tannin (แทนนิน) เป็นคำที่ใช้เรียกเพื่ออธิบายถึงความรู้สึกรสฝาด หรือรสขมเฝื่อน ๆ ที่ได้หลังจากดื่มไวน์เข้าไป ซึ่งความขมก็ได้มาจากเปลือกและเมล็ดองุ่นที่ถูกนำไปบ่มในกระบวนการทำไวน์แดงนั่นเอง
การที่เรารู้พันธุ์องุ่นจะทำให้เราเลือกไวน์แดงได้อย่างชาญฉลาด หากต้องการดื่มตัวที่ราคาไม่สูงมาก เราสามารถเลือกจากพันธุ์องุ่นที่ไม่ได้โด่งดังมากได้ เพราะราคาจะไม่สูงมาก เช่น Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot และ Malbec โดยเฉพาะพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก ถ้ามาจากผู้ผลิตดี ๆ ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกประเทศแหล่งปลูกที่รองลงมาได้ ในหัวข้อต่อไปเลยครับ
2 – ภูมิภาคแหล่งปลูกไวน์แดง Old World Wine vs New World
อย่างที่เรารู้กันว่าแหล่งปลูกพันธุ์องุ่นที่นำมาทำไวน์แดงมีความสำคัญที่ส่งผลต่อรสชาติที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งภูมิภาคในการผลิตออกเป็น 2 ประเภท คือ
Old World Wine – ไวน์โลกเก่า เป็นภูมิภาคต้นกำเนิดของไวน์ มักผลิตในประเทศแถบยุโรปทั้งหมด เช่น ประเทศฝรั่งเศส, อิตาลี, เยอรมัน เป็นต้น ความโดดเด่นของรสชาติจะกลมกล่อม หนักแน่น และซับซ้อนกว่าไวน์โลกใหม่
New World Wine – ไวน์โลกใหม่ ผลิตนอกทวีปยุโรป และเพิ่งผลิตไวน์มาได้ไม่เกิน 500 ปี หรือเกินเล็กน้อย เน้นไปทางกรรมวิธีผลิตไวน์แบบใหม่ (Innovation) ไม่ติดยึดอยู่กับที่ มีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ เช่น ประเทศออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบละตินอเมริกา เป็นต้น
ไวน์แดงที่มาจากภูมิภาคดั้งเดิมที่เป็นต้นกำเนิดมักจะมีราคาสูง และบางทีก็ผลิตออกมาจำนวนจำกัดด้วย ฉะนั้นอีกหนึ่งทางเลือกหากต้องการไวน์แดงคุณภาพดีในราคาไม่สูงมาก แนะนำให้เลือกไวน์แดงจากประเทศไวน์โลกใหม่ ซึ่งก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเลยนะครับ
3 – ไวน์ที่สอง (Second Wine) จากเจ้าของผู้ผลิตไวน์แดง
แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ต้องอยากดื่มไวน์แดงจากผู้ผลิตตัวท็อป แต่ด้วยราคาที่สูงปาดเหงื่อเห็นแล้วบางทีก็สงสารกระเป๋าสตางค์ เราแนะนำให้คุณเลือก “ไวน์ที่สอง” เป็นตัวเลือกไวน์จากผู้ผลิตรายนั้น ๆ ซึ่งไวน์ตัวหลักของเขาจะได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ราคาพุ่งสูง แต่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปด้วยทำให้ผู้ผลิตเหล่านี้ผลิตไวน์ที่สองขึ้นมา เช่น Château Margaux มี Pavillon Rouge de Château Margaux เป็นไวน์ตัวที่สอง แต่ทั้งนี้ไวน์ที่สองก็ไม่ได้มีค่าตัวน่าคบหาเสมอไปนะครับ บางตัวเหยียบหมื่นก็มีเช่นกัน
4 – จับคู่ไวน์แดงให้เข้ากับอาหารที่จะทาน
ไวน์แดง ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ทำให้รสชาติ และกลิ่นสัมผัสมีความเข้มข้น และ Tannin สูง รวมถึงผลไม้พวกจำเบอร์รีเป็นเอกลักษณ์ ทำให้การจับคู่ไวน์แดงให้เข้ากับอาหารแต่ละชนิดมีความสำคัญตามไปด้วย
อย่างที่เราจะเคยได้ยินกันว่าไวน์แดงรสชาติเข้มข้น Full Body เหมาะอาหารประเภทเนื้อ เช่น สเต๊กวัว หรือหมู รสเค็ม มัน หอมเนย พร้อมเครื่องเทศต่าง ๆ แต่ความจริงแล้วไวน์แดงยังสามารถจับคู่กับอาหารรสชาติเบา ๆ ได้อีก เช่น องุ่นพันธุ์ Pinot Noir ที่มี Medium Body ออกโน๊ตผลไม้ มีกลิ่นเครื่องเทศนิด ๆ จับคู่กับอาหารจานเนื้อปลาที่มีเนื้อแน่น จะเข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยครับ แต่หากเป็นไวน์แดงที่มี Light Body เหมาะกับอาหารที่เบา ๆ เช่น ประเภทสลัดผัก เนื้อปลา เนื้อไก่ จะเข้ากันมากกว่าไวน์แดงที่มีรสชาติหนักแน่น
*Body ในโลกของไวน์ หมายถึงระดับความเข้มข้น ถ้ายิ่งมีแอลกอฮอล์ในไวน์สูง ก็ยิ่งมีบอดี้หนัก หรือที่เรียกกันว่า Full Body มักมีแอลกอฮอล์ที่ 13.5% ขึ้นไป ส่วน Medium Body มีแอลกอฮอล์อยู่ระหว่าง 12.5-13.5% และ Light Body มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 12.5%
มารยาทในการดื่มไวน์แดงที่ควรรู้
- จับที่ก้านแก้วไวน์ – ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับที่ก้านแก้ว เลี่ยงการจับที่ตัวโถแก้ว เพราะจะทำให้ไวน์เปลี่ยนอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นจากมือที่เราไปจับ
- รินไวน์ให้พอดี ไม่เกินครึ่งแก้ว – เทไวน์ประมาณ 5-6 ออนซ์/1แก้ว หรือเกือบครึ่งแก้วไวน์มาตรฐาน เพราะไวน์ต้องการพื้นที่ให้อากาศเข้ามา ทำให้กลิ่นหอมออกมาชัดเจน
- ดมไวน์ก่อนดื่มทุกครั้ง – ดมแบบไม่ต้องค้างนาน ดมเพียงฟอดเดียวให้สัมผัสถึงกลิ่นของไวน์แดง
- ดื่มจากมุมแก้วเดิมทุกครั้ง – เพื่อความสะอาดของแก้ว เสริมให้ลุคดูดี และมีมารยาทครับ
- ไม่ควรหมุนแก้วไวน์มากเกินไป – โดยเฉพาะเวลาที่คุยกับผู้อื่นอยู่ ระวังอย่าหมุนมากไป หรือถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ควรหมุนนะครับ
- ชนแก้วที่ตัวโถ – เวลาชนแก้วไวน์ อย่าเอาปากแก้วชนปากแก้ว ควรชนที่ตัวโถ หากชนถูกต้องจะมีเสียงกังวาล
- ค่อย ๆ ดื่ม อย่าเพิ่งรวดเดียวหมด – สัมผัสลิ้มรสไวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
- จับก้นขวดไวน์เพื่อรินไวน์ – ไม่ควรจับปากขวดไวน์เพื่อริน มันทำให้ดูไม่โปร แต่ให้ใช้สองมือจับก้นขวด และอีกมือจับตรงกลางขวดไว้ เพื่อให้รินได้อย่างสมดุลแทนครับ
- รินไวน์ให้ผู้อื่นด้วย – แสดงความใสใจคนรอบข้าง อย่าเติมไวน์ให้แต่ตัวเอง แม้จะเป็นไวน์ตัวโปรดแค่ไหนก็ตาม ควรเติมให้คนรอบข้างด้วยนะครับ
- ดื่มอย่างรู้ลิมิตตัวเอง – รับผิดชอบการดื่มของตัวเอง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ซึ่งมีหลายคนที่คิดว่าไวน์คงไม่ทำให้เมาได้เท่ากับเหล้าแรง ๆ แต่บอกเลยว่าถ้าดื่มไปเพลิน ๆ ไม่รู้ลิมิตตัวเองก็ทำให้เมาหัวทิ่มได้เหมือนกันนะครับ
หวังว่าเทคนิคการเลือกไวน์แดงสำหรับมือใหม่จะเป็นประโยชน์นะครับ อย่างไรก็ตามดื่มแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วย ดื่มไวน์อย่าให้ไวน์ดื่มเรา และสำหรับใครที่เป็นสายคราฟต์เบียร์ เรามี บุกหลังบาร์ของคราฟต์เบียร์ (Craft Beer) คืออะไร พร้อมตอบทุกข้อสงสัย มาให้ด้วยครับ