วิเคราะห์ หลังหมดโควิด-19 โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ในระหว่างที่วิกฤตโควิด-19 ระบาดอย่างต่อเนื่อง เราก็ยังมีความหวังว่าในทุกวิกฤตมีเกิดก็ต้องมีดับ แต่เมื่อไหร่ที่วิกฤตนี้สิ้นสุดลง โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างล่ะ เพราะในขณะที่โควิด-19 ทำงานไม่หยุด วิถีชีวิตของเราก็ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับมันอยู่ตลอด เราจึงทำการวิเคราะห์ คาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงหลังหมดโควิด-19 มาให้ทุกคนลองคิดตามกันใน 5 ข้อนี้
5 ข้อที่โลกจะเปลี่ยนไป หลังสิ้นสุดยุคโควิด-19
1. โลกจะเปลี่ยนไป พึ่งห่วงโซ่อุปทานในประเทศมากขึ้น หลังหมดโควิด
ก่อนวิกฤตโควิด-19 จะเกิดขึ้น 2 ปีที่ผ่านมานี้ เราคงจะได้เห็นหลายประเทศใช้นโยบายแบบเน้นตนเอง (inward-looking policy) หรือปกป้องทางการค้า (protectionism) กันแล้ว (โดยเฉพาะจากกรณีสงครามการค้าที่เกิดขึ้นโดย Donald Trump แห่งสหรัฐฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทสัญชาติอเมริกันกลับมาผลิตในประเทศมากขึ้นและยังกีดกันการค้าจากต่างประเทศ) และยิ่งเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 หลังจากนี้โลกจะเปลี่ยนไป ประเทศต่าง ๆ จะเริ่มหันมาพึ่งห่วงโซ่อุปทานในประเทศของตัวเองมากขึ้น และกระจายความเสี่ยงด้านการผลิตและขายสินค้า โดยไม่พึ่งพาแต่เพียงประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากมีผลกระทบอย่างชัดเจน ในขั้นตอนการผลิตหรือตลาดขายสินค้าเมื่อธุรกิจต้องปิดตัวลง ทั้งนี้ก็เป็นผลลัพธ์ของมาตรการอย่าง การปิดเมืองหรือปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
2. หลังโควิดผ่านไป บริการสาธารณสุข จะไม่เป็นปัจเจกชน
ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สร้างแรงผลักดันให้กับรัฐบาลหลายประเทศ ในเรื่องพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประชาชน โดยไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดเป็นตัวจัดการอย่างเคย หลังโควิดโลกจะเปลี่ยนไป การที่บุคคลจะเข้าถึงบริการสาธารณสุข ไม่ควรเป็นเรื่องของปัจเจกชนอีกต่อไป เพราะผล กระทบได้เกิดขึ้นจริง หากมีประชาชนป่วย ซึ่งเป็นพาหะของโรคอยู่ แต่ไม่สามารถใช้บริการตรวจหาไวรัสได้ทั้ง ๆ ที่อยากตรวจ เพราะ ไม่มีกำลังจ่ายเงิน จึงทำให้คนกลุ่มนี้ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ โดยอาจจะกำลังแพร่ระบาดต่อไปยังผู้อื่นแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ด้วยเหตุนี้การควบคุมการแพร่ระบาดในภาพรวมจึงลำบาก และหลังจากพ้นวิกฤตนี้เราคงจะได้เห็นบทบาทของระบบรัฐสวัสดิการในแต่ละประเทศที่เพิ่มขึ้น
3. มาแน่ พฤติกรรมดิจิทัลเต็มรูปแบบ หลังโควิด
หลังโควิดจะเป็นอย่างไร เราขอพูดถึงเคสของในปี 2545 ที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส ซึ่งได้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้การใช้เทคโนโลยีออนไลน์อย่างโฆษณา E-commerce ในประเทศจีนเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ Alibaba และเจดีดอทคอม (ประชาชนเลี่ยงการติดเชื้อจากพื้นที่สาธารณะ เปลี่ยนมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น) หลังจากนี้โลกจะเปลี่ยนไป การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ตอกย้ำในด้านดิจิทัลมากขึ้น ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมต้องรีบปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ให้ไว เพื่อชิงตลาดออนไลน์มากขึ้น
อีกทั้ง…วิกฤตโควิด-19 ยังสร้างกฎข้อบังคับให้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอย่างจริงจัง อาจเรียกได้ว่าเป็นโอกาสต่อยอดให้มีผู้เล่นมากยิ่งขึ้นก็ได้ เช่น
– Platform สื่อสารทางไกล อย่างระบบ conference calls
– E-Learning / Course online
– Food delivery
– E-Payment (Electronic Payment System)
– ใช้ machine ทำงานมากยิ่งขึ้น
อยากให้แน่ใจว่าเจ้าของธุรกิจวางแผนพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วอย่างรัดกุม เพราะถึงโควิดหมด เทรนด์นี้ก็มาอยู่ดี ทางรอดคือ คุณต้องพาตัวเองไปอยู่บนโลกออนไลน์ และเข้าใจการทำการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณา หรือการเปิดเพจ แม้กระทั่งการทำเว็บไซต์ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้นิยมมากนัก ก็กำลังกลับมามีบทบาทในการเพิ่มยอดขายมากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บแพงอาจลองใช้เว็บสำเร็จ หรือเว็บฝากร้านอย่าง https://listandtell.com/ หรือหากคุณอยากเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น ขอแนะนำ https://web.facebook.com/SmartChapter.TH/
4. ธุรกิจท่องเที่ยว และ Entertainment ต้องปรับตัวหลังจบโควิด
- หลังโควิดโลกจะเปลี่ยนไป ธุรกิจท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะทวีปเอเชีย เพราะหลายประเทศมีรายได้หลักจากการอุตสาหกกรมท่องเที่ยว สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council – WTTC) เตือนว่าผู้ที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอาจตกงานกว่า 50 ล้านตำแหน่ง ซึ่งก็ได้ให้คำแนะนำสำหรับเจ้าของกิจการท่องเที่ยวและสายการบินเอาไว้ว่า
– อย่าให้ลูกค้า Cancel ควรอนุโลมให้เลื่อนวันเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน หรือวันเข้าพัก เพราะเมื่อใดที่วิกฤตนี้คลี่คลาย ทุกอย่างจะกลับสู่สถานการณ์เดิมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น - วงการบันเทิง หรือ Entertainment ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมหนัง สื่อบันเทิง ถูกหยุดชะงัก หรือเลื่อนเวลาออกไปอย่างไม่มีกำหนดที่แน่นอน ละคร ซีรีส์ หนังภาคต่อหลายเรื่องถูกพักการถ่ายทำ ทำให้บรรดาแฟนคลับต้องตั้งตารอต่อไปอีก สำหรับทางผู้จัด ผู้สร้างก็เรียกได้ว่าขาดทุนไปตาม ๆ กัน หลังจากนี้โลกจะเปลี่ยนไป สื่อออนไลน์และบริการ streaming ต่าง ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และการกลับมาของ การดูหนังแบบ Drive-In (การที่ผู้ชมซื้อตั๋ว แล้วขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาจอดในลานกว้าง Outdoor) ที่ตอบโจทย์ Social Distance ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งยอดขายตั๋วโรงหนัง Drive-In ในประเทศเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 อีกด้วย
5. ถึงหมดโควิด แต่ Unemployment Rate เพิ่มขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ทุกธุรกิจย่อมได้รับผลกระทบ ทำให้ต้องหาทางแก้ไขกันไป ทั้งการนำเอาเครื่องจักร หรือ machine ต่าง ๆ เข้ามาทำงาน หรือการ Layoff แต่โลกหลังโควิด-19 จะมีคนว่างงานทางตรงและแบบแอบแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากนี้โลกจะเปลี่ยนไป
โดยสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานถึงยอดผู้ยื่นขอสิทธิสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ อยู่ที่ 6.61 ล้านราย ทำให้ยอดรวมในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 16.8 ล้านราย และคาดการณ์ว่า unemployment rate (อัตราการว่างงาน) ของสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นทะลุ 10% ในสัปดาห์นี้ และอาจสูงถึง 30% ในไม่ช้าก็เป็นได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า ในปีนี้ตัวเลขคนว่างงานในประเทศจีนอาจเพิ่มสูงขึ้นถึง 30 ล้านคน (ที่มา: www.efinancethai.com) เพราะฉะนั้นเราควรกอดงานประจำที่มีอยู่ให้แน่น หรือหางานด้านอื่นเสริม แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากงานอะไร ทางเราเคยลงบทความนี้ไว้ คลิกอ่านเพื่อหาแรงบันดาลใจ รวมอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ตาม Passion
อย่างไรก็ตามเราคงได้แต่ภาวนาให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปได้ในเร็ววัน จะสุขจะทุกข์อยู่ที่พวกเราร่วมมือกันนะครับ แต่ไม่ว่าโควิด-19 จะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ตอนนี้เราทุกคนล้วนมีโจทย์เดียวกันแล้ว คือการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ปกป้องประเทศให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/
https://www.bangkokbiznews.com/news/
https://today.line.me/th/pc/article/
โลกหลังโควิด — Post Covid World คุณธนา เธียรอัจฉริยะ