Smart Contact Lens
คอนแทคเลนส์อัจฉริยะ จับภาพด้วยการกะพริบตา
นวัตกรรมโคตรเท่อย่างการกะพริบตาเพื่อถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอ แบบในภาพยนตร์ 007 กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง SONY ได้พัฒนา ‘คอนแทคเลนส์อัจฉริยะ’ ภายใต้เทคโนโลยี Nicola Tesla และนาโนเทคโนโลยี พร้อมยื่นขอจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การทำงานของคอนแทคเลนส์อัจฉริยะ
ในคอนแทคเลนส์แผ่นบางจิ๋ว จะประกอบไปด้วยชุดควบคุมการถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอ, ชุดควบคุมส่วนกลาง, เสาอากาศ, หน่วยความจำขนาดเล็ก และอุปกรณ์ตรวจวัดแรงกล (piezoelectric sensor) เช่น แรงสั่น ความเร่ง ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดจะคอยตรวจจับภาพจากมุมมองสายตา ของผู้สวมใส่คอนแทคเลนส์ ความพิเศษอยู่ที่อุปกรณ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้สามารถแยกแยะได้ว่า ผู้ใส่คอนแทคเลนส์ตั้งใจกะพริบตาเพื่อบันทึกภาพตรงหน้า หรือกะพริบตาแบบไม่รู้ตัวตามสัญชาตญาณทั่วไปของมนุษย์
โดยปกติมนุษย์จะกะพริบตาตามคำสั่งของจิตใต้สำนึก ทุกๆ 0.2-0.4 วินาที ซึ่งหากคุณใส่คอนแทคเลนส์อัจฉริยะอยู่ในขณะนั้น ปฏิกิริยานี้ไม่ถือเป็นคำสั่งให้บันทึกภาพ แต่หากตั้งใจกะพริบตาโดยใช้เวลานานกว่า ครั้งละ 0.5 วินาที ซึ่งผิดปกติจากอากัปกิริยาทั่วไป จะถือว่าเป็นการออกคำสั่งให้คอนแทคเลนส์อัจฉริยะถ่ายภาพที่อยู่ตรงหน้า แล้วบันทึกลงหน่วยความจำ
คอนแทคเลนส์อัจฉริยะกับการเหนี่ยวนำพลังงาน
ภายใต้เทคโนโลยี Nicola Tesla
หลายคนยังสงสัยต่อว่า แล้วเจ้าอุปกรณ์สุดเท่นี้อาศัยพลังงานจากที่ใดมาใช้เพื่อตรวจจับและบันทึกภาพ จุดนี้เองที่เทคโนโลยี Nicola Tesla เข้ามาช่วยเหลือได้เป็นอย่างดี ทำให้คอนแทคเลนส์อัจฉริยะ สามารถทำงานได้แบบไร้สาย โดยอาศัยการเชื่อมต่อพลังงานจากสมาร์ตโฟน แทบเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ผ่านการเหนี่ยวนำด้วยคลื่นวิทยุ, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตลอดจนการสั่นพ้องของสนามแม่เหล็ก เพื่อดึงพลังงานจากแหล่งพลังงาน นำมาใช้ในการตรวจจับภาพ หาจุดโฟกัส รวมถึงซูมวัตถุได้อีกด้วย
สำหรับนวัตกรรมนี้ทาง SONY ได้ยื่นขอจัดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะยังไม่มีการเปิดตัวสินค้าออกมา เพราะการผลิตคอนแทคเลนส์อัจฉริยะ ยังคงอยู่ในกระบวนการทดสอบการใช้งานอีกหลายขั้นตอน โดยต้องคำนึงถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน ที่สำคัญต้องเป็นการใช้งานที่ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตามแนวคิดการสร้างสรรค์คอนแทคเลนส์อัจฉริยะนี้ SONY ไม่ใช้เจ้าแรกที่คิดค้นขึ้น ก่อนหน้านี้ทั้ง Samsung และ Google เอง ก็เคยโลดแล่นอยู่ในสนามการทดลองแกดเจ็ตสุดล้ำนี้มาก่อน ใช้ชื่อเทคโนโลยีว่า ‘Gear Blink’ โดยตั้งใจผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์คล้ายกัน คือใช้ถ่ายภาพ รวมถึงยังต้องการพัฒนาให้มีฟังก์ชันอื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น ฟังก์ชันการตรวจค่าน้ำตาลในร่างกาย และช่วยสร้างมุมมองใหม่ๆ ให้กับเหล่าเกมเมอร์ เป็นต้น
น่าสนใจว่าการเข้ามาของแบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายแบรนด์ คงจะสร้างสรรค์นวัตกรรมแปลกใหม่ มาประดับตลาดคอนแทคเลนส์และตลาดกล้องถ่ายภาพได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
