งานที่สอง

Second Job Idea : ลงทุนกับงานที่สอง

นอกจากรายได้เสริม เราได้อะไร?

การแข่งขันและความผันผวนของยุค กำลังเป็นข้อจำกัดอิสระภาพของคนทำงานธรรมดาๆ จากที่เคยคิดว่าเอาตัวรอดได้ไม่ยาก กลับกลายเป็นว่าต้องหาวิธีกระจายความเสี่ยง เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้แบบไม่เจ็บตัว การมองหา ‘งานที่สอง’ ทำเพิ่ม ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงได้เช่นกัน เพราะไม่เพียงแต่ทำให้มนุษย์ (ทำ) งานมีรายได้เพิ่ม บางคนยังถือโอกาสลงทุนทางความคิดเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับปลดปล่อยไอเดียใหม่ และริเริ่มลองงานที่อยากทำ แต่ ‘ทำไม่ได้จริง’ ในชีวิตการทำงานแบบ Fulltime

เหตุผลที่ควรลงทุนกับงานที่สอง

งานที่สองช่วยกระจายความเสี่ยงจากงานหลัก

กระจายความเสี่ยงจากงานหลัก

อย่างที่ทราบกันดีว่ารูปแบบการทำงานยุคนี้มีการแข่งขันสูงพอๆ กับภาษีสังคมที่มนุษย์งานต้องจ่ายในแต่ละวัน การมองหางานที่สองทำเพิ่ม จึงเอื้อประโยชน์ให้เราใช้ชีวิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการรอบด้านได้แบบไม่ต้องกระเบียดกระเสียร ทั้งยังเป็นอีกทางเลือกที่สดใสสำหรับคนที่ต้องการหารายได้เพิ่ม รวมถึงคนที่ต้องการเก็บออม ที่สำคัญหากงานที่สองยังเป็นการปูแผนสำรองให้ชีวิต เพื่อรองรับตัวคุณในวันที่ไม่สามารถไปต่อกับงานประจำ

งานที่สองช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง

เพิ่มมูลค่าให้ตัวเอง

บ่อยครั้งที่งานที่สองเปิดโอกาสให้คุณกล้าคิดนอกกรอบมากกว่าเคย ซึ่งอาจช่วยชาร์จพลังให้คุณฟื้นตัวหลังเหนื่อยล้ากับงานที่จำเจ ที่สำคัญการคิดนอกกรอบมักพ่วงมาด้วยทักษะการทำงานที่เพิ่มขึ้นเสมอ เมื่อได้อัพสกิลไปอยู่ในเลเวลที่สูงขึ้น คุณย่อมมั่นใจในตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย ช่วยให้กล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนเดิมๆ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนงานเพียงอย่างเดียว แต่อาจหมายถึงความกล้าที่จะทำงานในแบบที่เป็นตัวเองมากกว่าเดิม ทั้งยังสามารถนำทักษะใหม่ๆ ไปปรับใช้กับงานประจำได้ด้วย

งานที่สองช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นหาตัวตน

เพิ่มโอกาสในการค้นหาตัวตน

หากคุณเป็นอีกคนที่ใช้แรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิต ก็พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงที่จะหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากงานที่สอง ยิ่งสายงานที่เลือกต่างไปจากงานประจำที่ทำโดยสิ้นเชิง ยิ่งชวนท้าทาย อย่าลืมเสียว่าทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปเสมอ ห้ามโกรธตัวเองหากไม่ประสบความสำเร็จในสายงานใหม่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง แต่ควรทำมันซ้ำๆ อย่างมีสติ โดยไม่ลืมแก้ไขจุดบกพร่องที่พลาดไปในครั้งก่อน แล้วงานที่สองอาจทำให้คุณค้นพบอีกตัวตนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการทำงานแบบเดิมมาโดยตลอด

งานที่สองเป็นการทดลองทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ

ทดลองทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ

ชุดความเชื่อที่ว่า ‘สิ่งที่อยากทำ’ ไม่อาจสร้างรายได้หรือทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เท่ากับ ‘สิ่งที่ต้องทำ’ กลายเป็นการบังคับให้ตัวคุณต้องซ่อนความชื่นชอบที่แท้จริง (ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้รับการยอมรับ) ไว้ใช่ไหม? ลองใช้โอกาสในการทำงานที่สองเป็นสนามทดลอง แล้วหยิบสิ่งที่คุณเผอเรอทิ้งไว้เบื้องหลัง มาสร้างรายได้และปลดปล่อยตัวตนดู อย่างน้อยก็ได้พิสูจน์ว่าชุดความเชื่อนี้จริงเท็จแค่ไหน ข้อดีคือคุณไม่ต้องสูญเสียงานใดงานหนึ่งไปเลย แต่สามารถขมวดไอเดียในการทำงานใหม่ได้แบบไม่ต้องคิดอะไรใหม่มากมาย

กฎของการลงทุนกับงานที่สอง ไม่ให้เสียงานประจำที่ทำอยู่

กฎของการลงทุนกับงานที่สอง
  • จงเป็นมนุษย์งานที่มีความรับผิดชอบ อย่าให้งานใดงานหนึ่งมาก้าวก่ายซึ่งกันและกัน

  • จงรู้จักจัดลำดับความสำคัญ เพราะบ่อยครั้งงานประจำก็ต้องมาก่อน

  • จงพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเพลิดเพลินกับงานที่สอง จนขาดสติในการทำงานประจำ

  • จงศึกษาหาความรู้ในงานที่สองให้ดีพอ และจัดสรรการลงทุนอย่างเหมาะสม

  • จงวางตัวให้เป็น ถ้าไม่อยากโดนเพ่งเล็ง

เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การกระจายความเสี่ยงด้วยการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องผิด ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณ ‘กล้า’ จะ ‘ก้าว’ ไปกับการลงทุนครั้งใหม่หรือเปล่า?

SHARE

RELATED POSTS

ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ถึงเบือนหน้าหนีกับการทำประกัน รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีจำนวนการทำประกันหรือซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตน้อยกว่าประเทศอื่นอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่เฉลี่ยแล้วคนญี่ปุ่น 1…
รู้จักกองทุนรวม ทางเลือกของคนที่อยากเริ่มต้นลงทุนและมีเงินเก็บ มันดีกว่าฝากธนาคารยังไง เสี่ยงมากน้อยขนาดไหน…