omakase โอมากาเสะ

แนะนำ 10 ร้าน Omakase สัมผัสความพรีเมียมขั้นเทพได้ในราคาน่าคบ

ทำงานมาเหนื่อย หาเงินมาได้ ก็อยากให้รางวัลชีวิตด้วยอาหารดี มีคุณภาพสักหน่อย ถ้าจะเอาทั้งความพรีเมียมของวัตถุดิบ รวมถึงบริการชั้นเลิส คงหนีไม่พ้นร้านอาหารแบบ Omakase (โอมากาเสะ) ที่ใคร ๆ ก็ว่าแพงไม่กล้าเข้าไปนั่งกิน Thomas Thailand จึงอยากนำเสนอ 10 ร้านโอมากาเสะ ที่ราคาน่าคบจับต้องได้ มากฝากทุกคน แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกันว่าร้านแบบนี้มันคืออะไร

Omakase (โอมากาเสะ) คืออะไร

Japanese food lover คงรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่หากใครเป็นมือใหม่สำหรับวงการนี้อยู่ ก่อนจะไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ เรามาทำความรู้จักกันว่า Omakase (โอมากาเสะ) คือ การทานอาหารแบบตามใจเชฟ แปลตรงตัวเลยครับคำว่า ‘Omakase’ ในภาษาญี่ปุ่น มีความหมายว่า ‘ตามใจเชฟ’ เป็นการทานแบบ Chef’s Table ทุกเมนูที่เสิร์ฟ เชฟจะเป็นคนคัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลมาครีเอทเป็นเมนูสุดพิเศษให้เราได้ลอง ซึ่งเมนูในแต่ละวันเลยจะไม่เหมือนกัน ผู้ที่มาทาน Omakase จึงได้รับการเซอร์ไพรส์อยู่ตลอด และบางเสิร์ฟอาจจะไม่มีโอกาสได้ทานเป็นครั้งที่สองก็ได้นะครับ

10 ร้าน Omakase สัมผัสความพรีเมียมขั้นเทพได้ในราคาน่าคบ

1. Bonsai Japanese Restaurant

อิ่มอร่อยกับคอร์สโอมากาเสะราคาสบายกระเป๋าที่มีให้เลือกถึง 4 คอร์ส ตั้งแต่ Kaiseki (1,500 บาท), Kaiseki Matsu (2,500 บาท), Sakura (4,000 บาท) และ Omakase (6,500 บาท) โดยแต่ละคอร์สจะมอบความอร่อยและความพิเศษจากทั้งสองเชฟชาวไทยและชาวญี่ปุ่นอย่างเชฟทองอินทร์และเชฟวาตานาเบะที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้ ประสบการณ์ พร้อมเนรมิตความสนุกในมื้ออาหารให้เป็นบรรยากาศผ่อนคลายด้วยเมนูวัตถุดิบคุณภาพ

Location: อาคาร The Millennia SG Tower

ราคาเริ่มต้น: 1,500 – 6,500 บาท

https://www.facebook.com/shinseisushi

เริ่มต้นสัมผัสประสบการณ์คอร์ส Omakase ราคาดี วัตถุดิบดีด้วยคอร์สโอมากาเสะที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 1,500 บาท / 2,300 บาท และ 3,000 บาท โดยในแต่ละคอร์สประกอบด้วย Appetizer, Sashimi, Sushi minimum ไปจนถึง Dessert ซึ่งซูชิแต่ละคำ ทางเชฟก็ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของวัตถุดิบชนิดนั้นออกมาได้อย่างน่าประทับใจและสัมผัสได้ถึงความคุณภาพที่ทางร้านได้คัดสรรมาแล้ว

Location: BTS อารีย์ ตรงข้ามอาคารยศวดี

ราคาเริ่มต้น: 1,500 – 3,000 บาท

Mokusai Japanese Restaurant

ร้าน Omakase คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ สด ใหม่ ราคาย่อมเยาว์เหมาะกับมือใหม่เพิ่งเริ่มทาน ด้วยสไตล์การรังสรรค์และเทคนิคเฉพาะตัวของทางร้านที่ไม่เหมือนกับร้านโอมากาเสะแบบดั้งเดิมทั่วไป เวลาได้ซูชิมาสักคำนึงก็ชวนสงสัยว่ามันคืออะไร ทำให้เกิดการพูดคุยกันระหว่างเรากับเชฟที่มากประสบการณ์ อัธยาศัยดีพร้อมมอบความรู้ให้แก่ผู้ทานได้เพลิดเพลินตลอดการสัมผัสประสบการณ์โอมากาเสะ

Location: ซอย สุขุมวิท26 ติดกับ The Fourwings Hotel

ราคาเริ่มต้น: 1,900++ บาท

MASA - Otaru Masazushi

โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ดินแดนแห่งซูชิ’ ซึ่ง MASA – Otaru Masazushi เป็นหนึ่งในร้านที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีมายาวนานก็ได้ขยายความอร่อยมาเสิร์ฟถึงประเทศไทยแล้วกับคอร์ส Omakase ที่เริ่มต้นด้วย AZAMI (1,990 บาท), Mini Omakase (4,000 บาท), Nigiri Omakase (4,000 บาท), Masa Omakase (6,000 บาท) และ Premium Omakase (8,000 บาท) เพลิดเพลินกับรสชาติที่เป็นเลิศได้ไม่ต้องบินไกล

Location: ICONSIAM ชั้น 4 โซน Rose Dining ฝั่ง Siam Takashimaya

ราคาเริ่มต้น: 1,990 – 8,000 บาท

Sushi Niwa Bangkok

ร้านอาหารญี่ปุ่น Omakase ที่เกิดโดยฝีมือของคนไทย สไตล์ของร้านจะแตกต่างจากความเป็นดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง มีการผสมผสานกันให้ออกมาเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันตั้งแต่ดีไซน์ตกแต่งร้าน บรรยากาศ และการนำเสนอเมนูในแต่ละคอร์ส ซึ่งส่วนของวัตถุดิบก็คัดสรรมาอย่างดี ส่งตรงอย่างหลากหลายจากประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำกับอาหารโอมากาเสะ

Location: BTS เพลินจิต ซอยร่วมฤดี 2

ราคาเริ่มต้น: 1,999++ บาท

Sushi Cyu & Carnival Yakiniku

ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมพร้อมเสิร์ฟทั้งคอร์ส Omakase และเมนู Yakiniku ในสไตล์ Authentic Japanese รังสรรค์เมนูจาก 2 เชฟชาวญี่ปุ่นและ 1 เชฟชาวไทย ผู้เต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์และพร้อมถ่ายทอดออกมาผ่านเมนูอาหารที่ปรุงอย่างใส่ใจและพิถีพิถัน เพื่อมอบความประทับใจให้ทุกคนได้สัมผัสกับราคาเข้าถึงได้กับ 10 Course Omakase (2,000 – 2,200+ บาท), 14 Course Omakase (3,000 – 3,300+ บาท), 16-18 Course Seasonal Omakase (3,900 – 4,500+ บาท)

Location: มี 4 สาขา – Central World, All Season Place Eight, Thonglor และ The Helix, EmQuartier

ราคาเริ่มต้น: 2,000 – 4,500 บาท

Mizu 水 by Sankyodai

ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับสไตล์ Edomae ด้วยรสธรรมชาติจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างพรีเมียม เริ่มต้นพร้อมเสิร์ฟคอร์ส Omakase ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร มีวัตถุดิบหลากหลายหมุนเวียนมาให้ได้ชิมอยู่ตลอดทั้งเมนูอาหารกลางวันและเมนูดินเนอร์ แต่ถ้าใครอยู่บ้านแล้วอยากทานโอมากาเสะ สำหรับที่นี่มีบริการเดลิเวอรี่ Omakase Box ที่เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมีมยเหมือนกับที่หน้าร้านอีกด้วย

Location: Charn Issara Tower 1

ราคาเริ่มต้น: 2,500 – 8,000 บาท

Ginza Sushi Ichi

สัมผัสประสบการณ์ทานอาหาร Omakase ระดับมิชลิน 1 ดาว พิถีพิถันด้วยกระบวนการทำและวัตถุดิบชั้นเลิศจากเชฟผู้มากประสบการณ์ในการปั้นข้าวจากประเทศญี่ปุ่น  และนอกจากเสิร์ฟคอร์สโอมากาเสะราคาสูงแล้ว ทางร้านยังมีเมนูอาหารกลางวันในราคาเป็นกันเองให้ทุกคนได้ลองสัมผัสกันอีกด้วย Lunch Omakase Course (3,000 บาท++ (จำกัดเพียง 5 ที่ต่อวัน), 4,000 บาท++, 5,000 บาท++, 7,000 บาท++) และ Dinner Omakase course (5,000 บาท++, 7,000 บาท++)

Location: Erawan Bangkok

ราคาเริ่มต้น: 3,000 – 7,000 บาท

Sushi Masato

นับเป็นหนึ่งในร้าน Omakase ที่จองยากมาก ๆ เป็นร้านชื่อดังระดับมิชลิน 1 ดาว การันตีถึงรสชาติและวัตถุดิบที่ดีเลิศ ซึ่งอาหารจะถูกเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเชฟเจ้าของร้าน คุณ Masato Shimizu พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอาหารกลางวัน Lunch Omakase (4,000 บาท), Standard Omakase (4,000 บาท) และ Premium Omakase (6,000 บาท) ซูชิทุกคำเชฟปรุงรสมาให้อย่างเข้าใจในการดึงรสชาติเด่นของวัตถุดิบนั้นออกมา ทำให้มื้ออาหารสุดพิเศษเป็นประสบการณ์ที่ใครหลายคนอยากจะสัมผัสอีกครั้ง

Location: สุขุมวิท 31 ซอยสวัสดี 1

ราคาเริ่มต้น: 4,000 – 6,000 บาท

Sasada Omakase

หากใครที่ทาน Omakase มาสักพักแล้วอยากจะสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไปอีกขั้น อย่าพลาดกับร้านนี้ เพราะเชฟโทโมกิ ซาซาดะ เชฟหนุ่มจากฮิโรชิมะ ผู้มีประสบการณ์ตรงจากร้านมิชลินสตาร์มากมายทั้งในโตเกียวและฮ่องกง ประจำการพร้อมเสิร์ฟอาหารจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาให้แล้วอย่างดี โดยมีคอร์ส Omakase ให้เลือก 2 คอร์ส คือ คอร์สปกติ (4,500++ บาท) กับคอร์สพิเศษที่ serve เมนูทุกอย่างเหมือนคอร์สปกติ แต่เพิ่มเมนูพิเศษอีก 3 อย่าง คือ Awabi, ปู Hokkaido และ tempura หูฉลาม (6,500++ บาท)

Location: Hyatt Regency Sukhumvit

ราคาเริ่มต้น: 4,500 – 6,500 บาท

การเลือกทานอาหารดี ๆ อย่าง Omakase (โอมากาเสะ) สักมื้อก็เสมือนมอบรางวัลชีวิตให้ตัวเองจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ถึงแม้อาจจะมีราคาสูงไปบ้าง แต่เชื่อเถอะครับว่าคุ้มแน่นอนกับประสบการณ์ที่เราจะได้กลับมา แต่ถ้าใครอยากลิ้มลองอาหาร Fine Dining เราขอแนะนำ 80/20 (เอ็ทตี้ ทเวนตี้) อาหาร Fine Dining ที่มีเสน่ห์แบบไร้สัญชาติ

SHARE

RELATED POSTS