รู้จัก ‘ฟิล์มเซรามิก’ พร้อมทริคเช็กของแท้ ไม่ถูกย้อมแมว
หนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์อย่าง การเลือกติดฟิล์มเซรามิก เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่น้อยเลย ยิ่งโดยเฉพาะกับอากาศในประเทศไทยแล้ว หากเราหาฟิล์มดี ๆ ติดรถยนต์สักหน่อย นอกจากจะช่วยถนอมรถยนต์เป็นอย่างมากแล้ว เวลาที่เราอยู่บนรถนาน ๆ ยังช่วยให้เราสบายสายตามากขึ้น และไม่หงุดหงิดกับอากาศภายนอก เพราะเหตุนี้เองทำให้ฟิล์มเซรามิกเป็นตัวเลือกที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่เมื่อยิ่งเป็นที่นิยมก็ยิ่งมีการนำฟิล์มเซรามิกมาย้อมแมวเพื่อหวังผลกำไรมากขึ้นเช่นกัน ทาง Thomas เลยอยากให้ทุกคนได้รู้จักว่าแท้จริงแล้วฟิล์มเซรามิกคืออะไร แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าฟิล์มเซรามิกแบบไหนเป็นของแท้ มาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าครับ
ทำความรู้จัก ‘ฟิล์มเซรามิก’ แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่
ก่อนอื่นเรามารู้จักเจ้าฟิล์มเซรามิกนี้กันก่อนเลยว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคำตอบที่ได้จากช่างติดฟิล์มก็จะประมาณว่า เป็นฟิล์มที่กันร้อนได้ดีกว่าฟิล์มทั่วไป หรือ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจสักเท่าไหร่หรอกจริงมั้ยครับ ทีนี้เราจะมาเล่าให้ฟังว่าที่จริงแล้วฟิล์มเซรามิก คือ ฟิล์มกรองแสงที่มีจุดเด่นในเรื่องของคุณภาพเนื้อฟิล์ม สามารถกันความร้อนได้ดีกว่าฟิล์มตัวอื่น การมองเห็นสำหรับคนในรถก็จะชัดเจน สว่าง ใส ไม่มืดเหมือนกับฟิล์มทั่วไป ยังกับไม่ได้ติดฟิล์มเลยหล่ะครับ แต่ทั้งนี้ก็ยังรักษาความเป็นส่วนตัวอยู่ เพราะเมื่อคนข้างนอกมองเข้ามาในรถเขาจะไม่เห็นเรา
โดยในปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีอย่าง ‘นาโน’ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพทำให้ฟิล์มเซรามิกทำงานได้ดียิ่งขึ้น ในชื่อที่เรียกว่า ‘ฟิล์มนาโน’ นั่นเอง ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาใช้ผลิตก็จะเป็น เซรามิก กับ คาร์บอน
Q: ฟิล์มเซรามิก กับ ฟิล์มนาโน ใช่อันเดียวกันหรือเปล่า ?
A: ต้องบอกแบบนี้ว่า ‘นาโน’ เป็นชื่อเรียกเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเสริมการทำงานของฟิล์มเซรามิก ซึ่งฟิล์มเซรามิกเองก็มีอีกหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการ ไม่ได้มีแค่ ฟิล์มนาโน เพียงอย่างเดียว
ประเภทของ ฟิล์มเซรามิก มีแบบไหนบ้าง
- ฟิล์มนาโนเซรามิก – ใช้เทคโนโลยี ‘นาโน’ ในการผลิตฟิล์มที่มีองค์ประกอบของวัสดุนาโนขนาดเล็กตั้งแต่ 1 – 100 นาโนเมตร นอกจากจะเด่นในเรื่องความใสของฟิล์มแล้ว ยังมีความสามารถป้องกันทั้งแสง ความร้อน รังสี UV ไปจนถึง รังสีอินฟาเรด (IR) และที่สำคัญ เมื่อติดฟิล์มไปนาน ๆ สีของฟิล์มจะไม่ซีดลง หรือเปลี่ยนสีไป
- ฟิล์มดำเซรามิก – เป็นฟิล์มที่นิยมในท้องตลาดอย่างมาก แต่ฟิล์มเซรามิกชนิดนี้เนี่ยเราต้องเข้าใจก่อนว่า พื้นฐานแล้วเซรามิกไม่ได้มีสีดำในตัวเหมือนอย่างคาร์บอน (ที่ใช้ผลิตฟิล์มดำคาร์บอน) สีดำที่ได้นั้นจึงมาจากการย้อมสีหรือผสมสีในชั้นกาว ทำให้ฟิล์มเซรามิกมีสีดำนั่นเอง
Tip: จุดสังเกตความแตกต่างระหว่าง ฟิล์มดำเซรามิก กับ ฟิล์มดำคาร์บอน ก็คือ ฟิล์มดำเซรามิกจะมีความเงากว่า ฟิล์มดำคาร์บอน - ฟิล์มคาร์บอน เซรามิก – เป็นลูกผสมระหว่าง ฟิล์มคาร์บอน กับ ฟิล์มเซรามิก โดยดึงจุดเด่นจากฟิล์มคาร์บอนที่ช่วยลดการสะท้อนของแสงจากภายนอก และดึงเอาความสว่างใสของฟิล์มเซรามิกมารวมกัน ทำให้ตัวฟิล์มชนิดนี้มีความมืดที่มีความโปร่งใสอยู่ในตัวด้วย
สรุปคุณสมบัติของฟิล์มเซรามิกทั้ง 3 แบบนี้ที่มีเหมือนกันเลยก็คือ
– กรองแสงได้ดี
– ทนความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม
– ดำนอก สว่างใน
– ป้องกันรังสี UV / IR
– ไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง Easy Pass และระบบนำทางอย่าง GPS
ก่อนติดต้องรู้! ‘ระดับความเข้ม’ ของฟิล์มเซรามิก
อีกหนึ่งความกังวลของคนที่กำลังจะติดฟิล์มเซรามิกก็คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่าจะเลือกความเข้มของฟิล์มที่เท่าไหร่ดี ต้องบอกก่อนเลยว่า ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์ที่ใช้กันโดยทั่วไปที่เราจะได้ยินกันบ่อย ๆ มีอยู่ 3 ระดับ คือ ฟิล์มเซรามิก 40%, ฟิล์มเซรามิก 60% และฟิล์มเซรามิก 80% ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าใจกันว่า ยิ่งมี % มากก็จะยิ่งป้องกันแสงเข้ารถยนต์ได้มากเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเข้าใจถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะ ตัวเลขนี้เป็นการเรียกความเข้มแบบคร่าว ๆ เท่านั้น หากเราต้องการรู้ว่าฟิล์มเซรามิกนี้ป้องกันแสงเข้ารถยนต์ได้กี่ % จะต้องพิจารณาจากค่า VLT เป็นค่าแสงสว่างส่องผ่าน (Visible Light Transmission) ซึ่งโดยทั่วไปฟิล์มเซรามิกจะมีค่า VLT ดังนี้
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์เข้ม 40 เป็นฟิล์มที่มีค่า VLT หรือยอมให้แสงผ่านฟิล์มมาได้ตั้งแต่ 35 – 50% จึงสามารถกันแสงได้ประมาณ 50 – 65%
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์เข้ม 60 เป็นฟิล์มที่มีค่า VLT หรือยอมให้แสงผ่านฟิล์มมาได้ประมาณ 20% จึงสามารถกันแสงได้ 80%
ฟิล์มเซรามิกติดรถยนต์เข้ม 80 เป็นฟิล์มที่มีค่า VLT หรือยอมให้แสงผ่านฟิล์มมาได้ประมาณ 5% จึงสามารถกันแสงได้ 95%
4 วิธีเช็กฟิล์มเซรามิกของแท้
อ๋อ! มันเป็นแบบนี้นี่เอง
1. ฟิล์มเซรามิกแท้ ต้องเคลียร์ชัดตลอดการขับขี่ – สังเกตง่าย ๆ ว่า ฟิล์มเซรามิกต้อง ‘ดำนอก สว่างใน’ ไม่ใช่ดำทั้งนอกและใน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเวลาที่คุณขับรถในตอนกลางคืนหรือตอนฝนตกแล้วเกิดความพร่ามัว มองไม่ชัด เบลอ ๆ นั่นแหละที่แปลว่า คุณโดนย้อมแมวขายเข้าแล้ว
2. ฟิล์มเซรามิกตัวจริง ต้องเงาน้อย – สามารถวัดได้จากค่า VLR หรือค่าการสะท้อนแสงที่ไม่ควรเกิน 8% หากเป็นฟิล์มเซรามิกแท้จะต้องไม่เงาเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน ถ้าตัวฟิล์มที่คุณติดมามีความเงาล่ะก็…แสดงว่ามีส่วนผสมของโลหะ หรือสารสะท้อนความร้อน ทีนี้เวลาที่ขับรถอาจทำให้ตาลายเพราะเห็นเงาตัวเองเต็มไปหมด
3. ผ่านทุกสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ นี่แหละฟิล์มเซรามิกของแท้ – สิ่งที่ต้องระวังไม่ให้โดนย้อมแมวเลยก็คือพวกฟิล์มเซรามิกเทียมที่เป็น Dried Film ผลิตจากแผ่นโพลีเอสเตอร์ย้อมสี ไม่เงา สามารถผ่านสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ไม่ป้องกันความร้อนเลย เพราะ ไม่มีเซรามิกกันความร้อนเป็นส่วนประกอบ
4. ฟิล์มเซรามิกแท้ ต้องตรวจสอบได้และมีความทนทาน – มีอายุการใช้งานนานกว่า 7 ปี รวมไปถึงต้องผลิตจากโรงงานและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่เชื่อถือได้ เพื่อการันตีว่าบริษัทจะไม่ปิดตัวลงในช่วงที่เป็นระยะเวลาการรับประกันสินค้า
สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากติดฟิล์มเซรามิกรถยนต์อยู่ก็อย่าลืมนำ 4 วิธีนี้ไปใช้กันนะครับ แต่เราอยากให้ได้ไปลองเห็นรถคันที่ติดฟิล์มเซรามิกที่คุณสนใจอยู่แบบของจริงก่อน เพราะการใช้งานและไลฟ์สไตล์ขับรถของแต่ละคนแตกต่างกัน เลือกให้เหมาะกับตัวเองจะดีที่สุด แล้วถ้าใครที่อยากดูแลรถยนต์คู่ใจให้อยู่กับเราได้นาน ๆ คลิกเลย รักรถ ชอบรถ ต้องรู้ 7 วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ ที่ถูกต้อง หรือใครกำลังเล็งรถมือสองอยู่ ต้องอ่านนี่ วิธีดูรถมือสอง เช็กยังไงให้ได้ของดี ไม่ถูกตีเนียน
