รองเท้าหนังผู้ชาย

5 ทรงรองเท้าหนังผู้ชาย พร้อมทริคเลือกซื้อรองเท้าหนัง

รองเท้าหนังผู้ชายเป็นอีกหนึ่งไอเทมแต่งตัวที่สำคัญไม่แพ้อย่างอื่นเลย สามารถใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่านักศึกษาใส่ไปเรียน หนุ่มออฟฟิศใส่ไปทำงาน หรือเข้าสู่ฐานะเจ้าบ่าวใส่แต่งงาน รวมถึงใส่ไปงานแต่ง และยังช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี ดูภูมิฐานอีกด้วย ซึ่งรองเท้าหนังผู้ชายก็มีหลากหลายรูปแบบ จนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว แบบนี้ Thomas ไม่พลาดที่จะมาบอกข้อมูลดี ๆ พร้อมทริคการเลือกซื้อรองเท้าหนังให้เพื่อน ๆ กันครับ

ทรงของรองเท้าหนังผู้ชาย มีอะไรบ้าง ?

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Oxford Cap Toe

1. รองเท้าหนังผู้ชายทรง Oxford Cap Toe

เป็นหนึ่งในรองเท้าหนังผู้ชายที่ควรมีไว้อย่างน้อย 1 คู่ เมื่อไหร่ที่ต้องการความเป็นทางการ มีความสุภาพ และกาลเทศะ รองเท้า Cap Toe Oxford สีดำ ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากเลยทีเดียวครับ ซึ่งลักษณะของรองเท้าหนังทรงนี้ สังเกตได้เลยว่าจะมีส้น รอยเย็บหนังเป็นแบบเรียบ ๆ ไม่มีฉลุลวดลาย รูปทรงปลายรองเท้าจะโค้งมน ส่วนหนังเชือกรองเท้าจะชิดติดกันสนิท จุดสำคัญคือรอยเย็บหนังครอบตรงส่วนปลายรองเท้าที่เรียกว่า ‘Cap Toe’ เพิ่มความเป็นทางการ และความสุภาพให้มากกว่ารองเท้าหนังทรงอื่น

ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : Formal สูงมากที่สุดในบรรดารองเท้าหนังผู้ชาย

เหมาะสำหรับโอกาส : งานที่เป็นทางการ ตั้งแต่งานรับปริญญา, สัมภาษณ์งาน, งานประชุม สัมมนา, งานแต่งงาน, ออกงานสังคม ไปจนถึงงานใหญ่ระดับประเทศ

วิธีจับแมตช์ : ด้วยความเป็นทางการของรองเท้าทรงนี้ แนะนำให้ใส่กับเสื้อเชิ้ต + กางเกงสแล็ค (Slacks) หรือกางเกงผ้าวูล (Dress Pants) เท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงใส่กับกางเกงชิโนและกางเกงยีนส์ครับ

นอกจากนี้รองเท้าหนังทรง Oxford ยังสามารถแยกได้อีกหลายแบบเลยครับ เช่น

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Whole Cut Oxford
  • รองเท้าหนังผู้ชายทรง Whole Cut Oxford
    ยังอยู่ในทรงรองเท้าผู้ชายของ Oxford แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ รองเท้าทรงนี้จะตัดเย็บจากหนังเพียงชิ้นเดียว ไม่มีลวดลาย ร้อยเชือกแบบ Closed-Laced และไม่มีส่วนของ Cap Toe
    ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : Modern Minimal มากกว่า Oxford Cap Toe ทำให้มีความเป็นทางการเทียบเท่ากัน แต่ใส่ง่าย และดูแฟชั่นกว่า
    เหมาะสำหรับโอกาส : ใส่ออกงานสำคัญได้เช่นเดียวกับทรง Oxford Cap Toe รวมถึงสามารถใส่ในฐานะเจ้าบ่าวก็ได้เช่นกันครับ
    วิธีจับแมตช์ : ถ้าเป็น Whole Cut Oxford สีดำ แนะนำให้ใส่กับกางเกงสแล็ค (Slacks) หรือกางเกงผ้าวูล (Dress Pants) เท่านั้น แต่ถ้าเป็นสีน้ำตาล สามารถใส่กับกางเกงยีนส์ได้ แต่จะเหมาะกับยีนส์สีเข้มมากกว่ายีนส์สีซีดครับ
รองเท้าหนังผู้ชายทรง Semi-Brogue Oxford
  • รองเท้าหนังผู้ชายทรง Semi-Brogue Oxford
    อีกหนึ่งรองเท้าผู้ชายทรง Oxford โดยรูปร่างหน้าตาและแนวเย็บจะเหมือนกับทรง Oxford Cap Toe เลยครับ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือลวดลายฉลุ หรือที่เรียกว่า Brogue ตกแต่งเพื่อให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้น

    ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : กึ่งทางกลาง สามารถใส่ Casual ได้
    เหมาะสำหรับโอกาส : ได้ทั้งไปเรียน และใส่ทำงาน สำหรับการใส่ออกงานจะเหมาะกับงานที่ไม่ได้หรูหรามาก
    วิธีจับแมตช์ : สามารถใส่คู่กับชุดสูทและ Dress Pants ได้ รวมถึงจะใส่กับกางเกงชิโน หรือกางเกงยีนส์ก็ยังพอได้ครับ

ความจริงแล้วรองเท้าผู้ชายในทรง Oxford ยังมีอีกหลายแบบมาก แต่หลัก ๆ ที่เราจะพบเจอและมีโอกาสได้ใส่ก็จะมีประมาณนี้ครับ

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Derby

2. รองเท้าหนังผู้ชายทรง Derby

รองเท้าหนังผู้ชายทรงนี้แอบคล้าย Oxford อยู่บ้าง แต่จุดสังเกตที่ต่างกันคือ แผ่นหนังที่มีรูเชือกผูกรองเท้าจะมีความห่างกัน ทำให้เห็นลิ้นหนังที่อยู่ใต้เชือกรองเท้าด้านล่าง จะไม่ชิดติดกันอย่างแบบแรก นอกจากนี้ชิ้นหนังจะแยกออกจากกันตรงในช่วงปลายหรือที่เรียกว่า Open Lace นั่นเองครับ

ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : Formal น้อยกว่า Oxford ใช้งานได้หลากหลาย

เหมาะสำหรับโอกาส : ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ไปเรียน รวมถึงใส่ไปทำงานออฟฟิศ

วิธีจับแมตช์ : ถือเป็นหนึ่งใน Dress Shoes ที่สามารถใส่กับเสื้อสูทได้ แต่ไม่ควรเลือกทรงหัวที่ปลายเป็นหัวสี่เหลี่ยม หรืองอนแบบหัวเรือหางยาวนะครับ

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Double-Monk Straps

3. รองเท้าหนังผู้ชายทรง Double-Monk Straps

รองเท้าหนังผู้ชายสไตล์โดดเด่น หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อเรียกว่าเป็นรองเท้านักบวช เพราะมีแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าของนักบวชในทวีปยุโรป สมัยโบราณ มีลักษณะลิ้นหนังปิดเต็มหลังเท้า ใช้สายรัดแบบเข็มขัดแทนการผูกเชือก เป็นรองเท้าหนังผู้ชายที่ใส่ง่าย สะดวกสบาย และมีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งแบบสายรัดเดี่ยว (Single Monk Strap Shoes), แบบสายรัด 2 เส้น (Double Monk Straps) และแบบสายรัด 3 เส้น (Triple Monk Straps)

ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : กึ่งทางกลาง สามารถใส่ Casual ได้

เหมาะสำหรับโอกาส : ใส่ออกงานที่ไม่ได้เป็นทางการสูง รวมทั้งสามารถใส่ไปเรียน  ไปทำงานได้

วิธีจับแมตช์ : สามารถใส่ได้กับชุดสูท โดยเฉพาะ Double-Monk Straps ที่เป็นสีน้ำตาลใส่คู่กับกางเกงยีนส์ก็ยังได้ครับ

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Loafers

4. รองเท้าหนังผู้ชายทรง Loafers

มีลักษณะคล้ายรองเท้าประเภท Slip on ที่ให้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ โดยรองเท้าหนังผู้ชายทรงนี้จะไม่มีเชือกผูกรองเท้า หรือเชือกผูกในส่วนอื่น มีส่วนเสริมส้นเล็กน้อย ปัจจุบันรองเท้าทรง Loafers ได้แตกแขนงออกมาอีกหลายแบบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Penny Loafers (คลาสสิก เรียบ ๆ), Tassel Loafers (มีพู่ข้างหน้า) และ Horsebit Loafers (มีสายรัดเท้าทองเหลือง/เงิน ที่ด้านบน)

ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : ใส่ง่าย มีความเป็นทางการน้อย

เหมาะสำหรับโอกาส : ใส่ในชีวิตประจำวันได้ หรืออกงานทางการในลุค Smart Casual ที่ดูคล่องตัว

วิธีจับแมตช์ : หากอยากให้ดูดี แต่ยังคงความสบายอยู่ แนะนำให้ใส่กับเสื้อที่เป็นผ้า Oxford + กางเกงชิโน หรือถ้าอยากให้เป็นแฟชั่น จะใส่ถุงเท้าเสริมเข้าไปก็ได้ครับ

รองเท้าหนังผู้ชายทรง Driving Shoe

5. รองเท้าหนังผู้ชายทรง Driving Shoe

ลักษณะของรองเท้าหนังผู้ชายทรงนี้จะตัดเย็บโดยยึดรูปแบบของ Loafers slip-on เป็นหลัก และมีการเจาะรูเพื่อนำแผ่นยางที่มีหมุดยางมาสอด ให้เสมือนเป็นพื้นของรองเท้า ซึ่งครอบคลุมไปถึงส้นรองเท้าด้วย เพื่อช่วยยึดเกาะกับพื้นรถในขณะที่ผู้สวมใส่ตั้งเท้าขึ้นเพื่อที่จะเหยียบเบรกหรือคันเร่งในขณะขับรถนั่นเองครับ

ลำดับขั้นของความเป็นทางการ : Casual

เหมาะสำหรับโอกาส : ใส่ใช้ชีวิตประจำวันได้สบาย ๆ โดยเฉพาะใส่ขับรถ

วิธีจับแมตช์ : สามารถใส่กับกางเกงขาสั้นหรือขายาวก็ได้ และจะเป็นกางเกงยีนส์ หรือกางเกงชิโนก็ได้เช่นกัน

หนังทั้ง 6 ประเภทที่นิยมใช้ผลิตรองเท้าผนังผู้ชาย  

ประเภทหนังที่นิยมใช้ผลิตรองเท้าผนังผู้ชาย
  • 1. Pull Up – เคลือบด้วย Waxed และน้ำมันแต่งสีผิวหนัง จุดเด่นคือ หากดึงหนังบางส่วน หนังจะเปลี่ยนเป็นสีอ่อน ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา
  • 2. Chamois – ซับน้ำได้ดีและนิ่มเป็นพิเศษ มีตุ่มเล็ก ๆ เอกลักษณ์เฉพาะตัว เคลือบและอัดด้วย Waxed ป้องกันการดูดซับความชื้น
  • 3. Scotch Grain – มีลายแตกที่มาจากการฟอกด้วยกรรมวิธีที่ใช้ถังไม้บ่ม Whiskey โบราณ ทำให้ทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลายได้ดี
  • 4. Shell Cordovan – ทำจากหนังสะโพกม้าที่ทนต่อการยืดและทนน้ำได้ดีเยี่ยม เกิดรอยพับจากการสวมใส่ได้ยาก มีราคาสูง
  • 5. Calfskin – ผลิตจากหนังวัวอายุน้อย เพื่อให้ได้หนังที่บาง มีลายสวย นิ่ม และสภาพหนังดี มีความแข็งแรงทนทาน ดูแลรักษา และขัดเงาได้ง่าย
  • 6. Patent Leather – เป็นหนังที่เคลือบให้เงามากที่สุด เคลือบด้วยสารพิเศษ เพื่อให้ได้ผิวที่มันและเงา ถือเป็นหนังที่เป็นทางการมากที่สุดในที่นี้เลยครับ

ทริคควรรู้ก่อนเลือกซื้อรองเท้าหนังผู้ชาย

ทริคควรรู้ก่อนเลือกซื้อรองเท้าหนังผู้ชาย

ได้รู้กันไปแล้วนะครับว่ารองเท้าหนังผู้ชายมีทรงและหนังแบบใดบ้าง แล้วหากจะเลือกซื้อรองเท้าหนังสักคู่นึงล่ะ ต้องดูอะไรเป็นพิเศษ เราจะมาบอกทริคการเลือกรองเท้าหนังผู้ชายกัน

  • คุณภาพของหนัง : หนังของรองเท้าที่ดี เวลามีแสงตกกระทบจะเกิดเงา มีมิติ ไม่ใช่มีเงาเหมือนกระจกตั้งแต่ยังไม่โดนแสง
  • ทรงของรองเท้า : ทรงที่ไม่สมมาตร (Asymmetrical Last) ลักษณะด้านนอกจะโค้งออกมากกว่า เพื่อให้เป็นไปตามสรีระของเท้า ทำให้ฟิตเท้าได้ดี
  • โครงสร้าง GoodyearWelted : เป็นเทคนิคการเย็บติดพื้นรองเท้าเข้ากับตัวรองเท้าด้วยเครื่องจักร ตามแบบที่ Charles Goodyear Jr. ผู้คิดค้นได้จดสิทธิบัตรเอาไว้ ข้อดีคือ สามารถเปลี่ยนพื้นรองเท้าได้เมื่อใช้งานแล้วจนสึก ช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้เรื่อย ๆ เลยครับ จนกว่าตัวรองเท้าด้านบนจะใช้งานไม่ได้แล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก Youtube Channel : TaninS

เรื่องราวของรองเท้าหนังผู้ชายยังมีอีกหลายเรื่องเลยล่ะครับ ไว้มีโอกาสเราจะมาให้ข้อมูลดี ๆ แบบนี้กันอีก ส่วนใครที่อยากหาแบรนด์รองเท้าหนัง เราก็จะแนะนำให้เป็นหลัก เช่น Fugashin, Alden, Crockett & Jones, Berwick, Carmina หรือแบรนด์ไทยอย่าง Mango Mojito ราคาอาจสูงสักหน่อย แต่รับรองว่าคุณภาพอัดแน่นแน่นอนครับผม

SHARE

RELATED POSTS

ผู้ชายควรรู้! เคล็ดลับการเลือกใส่กางเกงในชายให้เหมาะกับตัวเอง กางเกงในชาย สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งตัวที่ผู้ชายมักละเลยอยู่บ่อย…
แนะนำวิธีเลือกเสื้อสูทผู้ชายให้ดูดีและเหมาะกับตัวเอง ทริคสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป และใครที่กำลังอยากมีเสื้อสูทตัวแรก นี่คือเรื่องพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนซื้อ…
สูตรลัดฉบับรัด ว่าด้วยสไตล์การแต่งตัวผู้ชาย เคล็ดลับที่จะช่วยคุณแต่งตัวให้หล่อเหมือนเมื่อคืนเตรียมเสื้อผ้าทั้งคืน แต่ความจริงแล้วแม้จะตื่นสายก็แต่งหล่อทัน…