Search
Close this search box.
สูทผู้ชาย

เลือกเสื้อสูทผู้ชายให้ดูดี ด้วย 7 ทริคสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อ

สำหรับหนุ่ม ๆ แล้ว การเลือกเสื้อสูทผู้ชาย ดูไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะเลือกแมตซ์สักตัวแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ก็เพราะมันมีดีเทลมากมายไม่ว่าจะทั้งขนาดที่เหมาะกับสรีระ ความยาวของเสื้อ ไหนจะกังวลเรื่องกระดุมว่าต้องติดยังไงอีก แล้วใส่เสื้อสูทผู้ชายยังไงให้ดูดี เอาเป็นว่าวันนี้ Thomas Thailand จะช่วยให้ขจัดปัญหาเหล่านี้ให้เองครับ เพราะเรามีวิธีเลือกเสื้อสูทผู้ชายให้เหมาะกับตัวเองมาฝากกัน

เลือกสูทให้ลุคดูสมาร์ตด้วย 7 วิธีเลือกเสื้อสูทผู้ชาย

เสื้อสูทผู้ชายต้องใส่ให้พอดีกับหัวไหล่

1. เสื้อสูทผู้ชายต้องใส่ให้พอดีกับหัวไหล่

โดยทั่วไปแล้วเสื้อสูทผู้ชายจะมีฟองน้ำเสริมหัวไหล่ เวลาที่เราใส่เสื้อสูทแล้วมีฟองน้ำเลยหัวไหล่ออกมานั่นแปลว่า เสื้อสูทตัวนั้นใหญ่เกินไป ซึ่งเรากำลังจะบอกคุณว่าทริคการเลือกเสื้อสูทผู้ชายจะต้องเลือกให้พอดีกับช่วงหัวไหล่ ไม่เล็กจนรัดเกินไป หรือไม่หลวมจนช่วงไหล่ตก หากเลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายที่พอดีตัวก็จะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสง่ามากขึ้น

ความยาวแขนเสื้อสูทผู้ชายที่พอดี

2. เลือกความยาวแขนเสื้อสูทผู้ชายที่พอดี

แน่นอนว่าเวลาที่เราใส่เสื้อสูทผู้ชายก็ต้องมีเสื้อตัวข้างในใช่มั้ยครับ และส่วนใหญ่เราก็จะเลือกแมตซ์กับเสื้อเชิ้ต ซึ่งเคล็ดลับการเลือกใส่เสื้อสูทให้ดูดีก็คือ เลือกความยาวแขนเสื้อให้เลยกระดูกข้อมือลงมาประมาณ 1 นิ้ว เพราะเวลาใส่เสื้อสูทคู่กับเสื้อเชิ้ตให้ดูสมาร์ต แขนเสื้อเชิ้ตจะต้องโผล่พ้นแขนเสื้อสูทมาประมาณครึ่งนิ้ว และอย่าลืมดูขนาดของกระบอกแขนเสื้อให้พอดี เพราะถ้าใส่กระบอกแขนเสื้อที่ใหญ่เกินไป แน่นอนว่ามันจะทำให้เราดูเทอะทะและยังทำให้ดูมีอายุมากขึ้นอีกด้วย

ความยาวของตัวเสื้อสูทผู้ชายให้อยู่ระดับครึ่งก้น

3. ดูความยาวของตัวเสื้อสูทผู้ชายให้อยู่ระดับครึ่งก้น

ลองคิดดูนะครับว่าถ้าเราเลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายที่มีความยาวของตัวเสื้อสั้นเกินไปมันจะดูเหมือนว่าเราแอบไปเอาสูทของน้องชายมาใส่ หรือถ้าเลือกตัวเสื้อสูทยาวเกินไปก็จะทำให้เราดูเป็นผู้ชายตัวเล็กไปอีก ดูแล้วไม่ค่อยบาลานซ์กันสักเท่าไหร่ ฉะนั้นแล้วทริคการเลือกความยาวของตัวเสื้อสูทให้ดูดีจะต้องมีความยาวอยู่ในระดับประมาณครึ่งก้นนั่นเอง

4. ใส่เสื้อสูทผู้ชายสีแบบไหนถึงเหมาะกับตัวเอง?

วิธีที่จะเลือกสีเสื้อสูทผู้ชายให้เหมาะกับตัวเองจะต้องเลือกให้เข้ากับรูปร่าง เพราะสีเสื้อเนี่ยมันสามารถพรางหุ่นของเราได้ดีเลยทีเดียว

เสื้อสูทผู้ชายรูปร่างใหญ่

รูปร่างใหญ่

ผู้ชายที่มีรูปร่างใหญ่เป็นหนุ่มเจ้าเนื้อ แนะนำให้เลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายที่มีสีโทนเข้มแบบเรียบ ๆ เช่น สีดำ สีกรมท่า ซึ่งสีเข้มแบบนี้จะช่วยลดความใหญ่ให้เล็กลง และช่วยให้รูปลักษณ์ดูเบาขึ้น ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อที่มีลายเยอะ ๆ เพราะมันจะทำให้ดูตัวใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ถ้าอยากได้เสื้อสูทที่มีดีเทลมากกว่าสีพื้นเรียบ ๆ อาจเลือกเป็นเสื้อสูทลายทางหรือมีลายเล็ก ๆ ที่จะทำให้ดูตัวยาวขึ้นได้

เสื้อสูทผู้ชายรูปร่างผอมสูง

รูปร่างผอมสูง

ผู้ชายที่ตัวสูงผอม ควรใส่เสื้อสูทผู้ชายด้วยเนื้อผ้าที่มีน้ำหนัก และควรเลือกสีโทนอ่อน เช่น สีเทา สีเบจ เพราะช่วยทำให้ตัวเราดูใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเลือกใส่สูทลายทางหรือสูทสีเข้มก็จะยิ่งทำให้ดูสูงและผอมเข้าไปอีก

เสื้อสูทผู้ชายรูปร่างตัวเล็ก

รูปร่างตัวเล็ก

ผู้ชายตัวเล็ก ไม่ควรเลือกเสื้อสูทผู้ชายที่มีลวดลายหรือลายพิมพ์หนา ๆ เพราะจะทำให้ดึงดูดความสนใจไปที่รูปร่างมากยิ่งขึ้น แนะนำให้เลือกใส่เสื้อสูทที่มีสีพื้นเรียบ ๆ หรือเลือกใส่สูทลายทาง เพราะสามารถช่วยดึงดูดสายตาให้มองขึ้นตามแนวยาว หมายความว่ามันจะทำให้ร่างกายดูสูงขึ้นมากกว่าที่เป็นนั่นเองครับ

5. เลือกรอยผ่าหลังเสื้อสูทผู้ชาย (Vents) ให้เข้ากับรูปร่าง

รอยผ่าหลังเสื้อสูทผู้ชายหรือที่เรียกว่า Vent จุดที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามแต่ที่จริงแล้วมีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะ รอยผ่าหลังจะช่วยให้เรามีบุคลิกที่ดี เรียบร้อย สุภาพ แถมยังล้วงกระเป๋ากางเกงได้สะดวกขึ้นอีกด้วย

ไม่มีรอยผ่าหลังเสื้อสูท (No Vent)

ไม่มีรอยผ่าหลังเสื้อสูท (No Vent)

เสื้อสูทผู้ชายแบบไม่มีรอยผ่าหลังให้ลุคเรียบ ๆ มินิมอล ใส่แล้วจะดูเข้ารูปกว่าเสื้อสูทที่มีรอยผ่าหลังรอยเดียว เหมาะกับผู้ชายที่มีรูปร่างผอมสูง เพราะเมื่อใส่แล้วจะดูได้ทรงที่เข้ารูป ช่วยให้เห็นรูปร่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่เป็นหนุ่มตัวผอมแห้งอีกต่อไป

ผ่าหลังรอยเดียวตรงกลางเสื้อสูท (Single Vent)

ผ่าหลังรอยเดียวตรงกลางเสื้อสูท (Single Vent)

รอยผ่าหลังเสื้อสูทผู้ชายเพียงรอยเดียว เดิมทีถูกดีไซน์ขึ้นมาสำหรับการขี่ม้า ซึ่งในปัจจุบันนี้ข้อดีของมันก็คือ ช่วยให้เราขยับตัวได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะล้วงเป๋า หรือขี่บิ๊กไบค์ก็คล่องตัว เหมาะกับหนุ่มหุ่นหมี เจ้าเนื้อหน่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเบี่ยงเบนความสนใจเกี่ยวกับหุ่นได้อีกด้วย

รอยผ่าหลังทั้งด้านซ้ายและขวา (Double Vent)

รอยผ่าหลังทั้งด้านซ้ายและขวา (Double Vent)

เสื้อสูทผู้ชายที่ผ่าหลังทั้งสองข้างจะช่วยแก้ปัญหาการล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะเมื่อเอื้อมมือล้วงไปแล้วเสื้อสูทจะยังคงตัวอยู่ ช่วยเพิ่มความทะมัดทะแมงในการขยับตัวมากขึ้น เหมาะกับผู้ชายตัวเล็ก เพราะรอยผ่าคู่ด้านหลังจะช่วยให้การใส่สูทดูมีมิติ และทำให้ดูสูงขึ้นนั่นเอง

6. เทคนิคเลือกและกลัดกระดุมเสื้อสูทผู้ชาย

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับการเลือกเสื้อสูทผู้ชายก็คือจำนวนกระดุม หลายคนอาจจะงงว่ามันสำคัญยังไง แต่หากคิดจะซื้อเสื้อสูทสักตัวนึง ตำแหน่งและจำนวนของกระดุมก็ส่งผลต่อบุคลิกและลุคโดยรวมได้เช่นกัน มาดูกันครับว่ากระดุมแต่ละแบบแตกต่างกันยังไงบ้าง

สูทกระดุมแถวเดียว Single - Breasted Suits

สูทกระดุมแถวเดียว Single – Breasted Suits

เป็นเสื้อสูทผู้ชายที่มีกระดุมเรียงตัวตรงกลางเป็นแถวเดียว มีจำนวนกระดุมตั้งแต่ 1 – 3 เม็ด เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการพรางช่วงลำตัว ซึ่งหากมีกลัดกระดุมแบบนี้จำไว้ว่า ถ้ามีกระดุมเม็ดเดียว ต้องกลัดกระดุมเสมอไม่ว่าจะตอนเดินหรือยืน, กระดุม 2 เม็ด ให้กลัดกระดุมเม็ดบนสุดเท่านั้น, ส่วนกระดุม 3 เม็ด แนะนำให้กลัดเฉพาะเม็ดกลาง ส่วนตอนนั่งเอาตามสะดวกได้เลยทั้ง 3 แบบ ลองดูว่าถ้านั่งแล้วกระดุมรั้งทำให้รู้สึกอึดอัด หรือเสียลุคก็ปลดออกซะ

สูทกระดุมสองแถว Double - Breasted Suits

สูทกระดุมสองแถว Double – Breasted Suits

การจัดวางกระดุมประเภทนี้จะเป็น ตัวเลข x ตัวเลข เช่น สูท Double – Breasted กระดุม 6×2 หมายความว่า สูทตัวนี้มีกระดุมทั้งหมด 6 เม็ด และจะมีกระดุม 2 เม็ดเอาไว้กลัดให้เห็นข้างนอก (ไม่นับกระดุมหลัก หรือ Anchor button ที่ซ่อนอยู่ในตัวเสื้อ) ซึ่งสูท 6 กระดุมจะให้ลุคที่ดูเป็นทางการ ภูมิฐาน และยังช่วยเสริมให้ลุคดูวินเทจมากขึ้นอีกด้วย จึงเหมาะกับผู้ชายรูปร่างผอม เพราะจะช่วยให้ตัวดูใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะตอนกลัดกระดุมครบทั้ง 6 เม็ด (สูทกระดุม 2 แถว สามารถกลัดกระดุมครบทุกเม็ดได้โดยไม่ทำให้ลำตัวดูตัน หรือเกิดความรัดขึ้น)

ฉีกทุกกฎก็เลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายแบบ Oversize

7. ฉีกทุกกฎก็เลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายแบบ Oversize

ในปัจจุบันนี้เราก็คงเห็นผู้ชายใส่เสื้อสูททรง Oversize กันมากขึ้น โดยเฉพาะในลุคสตรีท สายแฟชั่นต่าง ๆ เพราะให้ลุคที่ดู casual สบาย ๆ และมีสีสันหลากหลายให้เลือกมากกว่าสูททรงมาตรฐาน หรืออีกชื่อที่เราเรียกกันจนชินปากว่า เบลเซอร์ (Blazer) นั่นแหละครับ จุดเด่นคือไม่มีฟองน้ำรองที่ไหล่ เนื้อผ้าและการออกแบบจะเบากว่าเสื้อสูทผู้ชายทั่วไป ทำให้ใส่ง่าย ไม่ต้องคิดมาก ที่สำคัญคือใส่ยังไงก็ดูดี แต่ก็ต้องดูโอกาสด้วยนะครับหากใส่ไปประชุมสำคัญหรือออกงานสังคมอาจดูไม่ค่อยเหมาะนัก

ก็ได้รู้กันไปแล้วนะครับว่าเราควรเลือกใส่เสื้อสูทผู้ชายแบบไหน บางคนอาจจะคิดว่าดูวุ่นวายจังกว่าจะได้สักตัวเนี่ย แต่รับรองเลยว่าถ้าคุณหาสูทคู่บุญตัวนั้นเจอแล้ว คุณจะวางใจเรื่องการแต่งตัวไปได้เยอะเลยล่ะครับ แล้วถ้ายังไม่รู้ว่าจะแมตซ์กับกางเกงแบบไหนดี เราก็มีตัวเลือกที่ใส่สบายเหมาะกับอากาศบ้านเรามาให้ที่นี่แล้ว คลิก กางเกงชิโน กางเกงที่ควรมีติดตู้ไว้ทุกบ้าน

SHARE

RELATED POSTS

5 ทรงรองเท้าหนังผู้ชาย พร้อมทริคเลือกซื้อรองเท้าหนัง รองเท้าหนังผู้ชายเป็นอีกหนึ่งไอเทมแต่งตัวที่สำคัญไม่แพ้อย่างอื่นเลย…
ผู้ชายควรรู้! เคล็ดลับการเลือกใส่กางเกงในชายให้เหมาะกับตัวเอง กางเกงในชาย สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งตัวที่ผู้ชายมักละเลยอยู่บ่อย…
สูตรลัดฉบับรัด ว่าด้วยสไตล์การแต่งตัวผู้ชาย เคล็ดลับที่จะช่วยคุณแต่งตัวให้หล่อเหมือนเมื่อคืนเตรียมเสื้อผ้าทั้งคืน แต่ความจริงแล้วแม้จะตื่นสายก็แต่งหล่อทัน…