![UPTIS นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/UPTISUpdate01cover_web-on3153dusg0uxvxwlarpfqfe5kugq5jhzd3bvsmnu8.jpg)
‘UPTIS’ นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม
ความปลอดภัยที่เหนือกว่าบนท้องถนน
ยางรถยนต์ทั่วไปขับเคลื่อนได้ดีก็ต่อเมื่อ มีการอัดแรงดันลมยางเข้าไปในปริมาณที่เหมาะ แต่ปัญหามักเกิดจากผู้ขับขี่ไม่รู้แน่ชัดว่า ค่าแรงดันลมยางที่เหมาะสมคือเท่าไรกันแน่! แม้จะมีคู่มือแนะนำแต่เราต่างต้องใช้รถในกรณีที่ต่างกัน บ้างเดินทางไกล บ้างบรรทุกหนัก บ้างขับหน้าฝน บ้างเลี่ยงการเติมลมตอนยางยังร้อนจัดไม่ได้ ทำให้กะค่าแรงดันไม่ถูก หลากหลายปัญหาเหล่านี้กลายมาเป็นข้อมูลตั้งต้นให้ Michelin ค่ายยางรถยนต์ระดับโลก และ General Motors (GM) ค่ายรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา ร่วมกันคิดค้นยางรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อปลดล็อกทุกปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยางแบบเติมลม จนเกิดเป็น ‘UPTIS’ หรือ ‘ยางรถยนต์ไร้ลม’
การทำงานของ UPTIS ยางรถยนต์ไร้ลม
UPTIS คือชื่อรุ่นยางรถยนตร์ไร้ลมจาก Michelin ย่อมาจากชื่อเต็มคือ ‘Unique Puncture-proof Tire System’ มีลักษณะเป็นล้อยางแบบกลวง ตรงกลางออกแบบให้เป็นซี่ยางเรียงตัวซ้อนกันถี่ ๆ
ซึ่งผลิตขึ้นด้วยระบบเจาะยางแบบพิเศษ ช่วยให้ล้อยางมีความยืดหยุ่น วิ่งได้ดีบนหลากหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนยางมะตอย, พื้นดิน และพื้นผิวที่ขรุขระ โดยไม่ต้องเติมลม แม้จะเหยียบของมีคม เช่น ตะปู เศษแก้ว หรือเศษหิน ก็ไม่ทำให้เกิดรอยรั่วและไม่ยุบตัว (ยางแบน) เหมือนยางเติมลมทั่วไป
นอกจากนี้ผู้ผลิตยังยืนยันด้วยว่ายางรถยนต์ไร้ลมที่ออกแบบมา มีความแข็งแรง ทนทาน และรองรับน้ำหนักตัวรถพร้อมสัมภาระที่บรรทุกได้ดีไม่แพ้ยางเติมลมทั่วไป โดยวัสดุหลักที่ใช้ผลิตยางรุ่นนี้ทำจาก ยางคอมโพซิต (composite rubber), ยางเรซิ่นยืดหยุ่นสูง (high-strength resin),
และพลาสติกไฟเบอร์กลาส (embedded fibreglass)
ทั้งนี้ UPTIS คือวิวัฒนาการของเทคโนโลยียางรถยนต์ ที่ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีล้อยางไร้ลมที่มีชื่อว่า ‘Tweel’ ซึ่ง Michelin เคยพัฒนาเอาไว้ในอดีต โดย Tweel เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าหลักคือ กลุ่มรถ ATV, รถกอล์ฟ, รถไถกลบ และรถที่ใช้ในกลุ่มงานปรับสภาพพื้นผิวอีกหลายประเภท แต่สำหรับ UPTIS ดูเหมือนจะเป็นยางรถยนต์ไร้ลมรุ่นแรก ที่ออกสู่ท้องถนนสาธารณะอย่างเต็มตัว กลายเป็นนวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลมแห่งการใช้งานได้จริง
![UPTIS นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2019/08/UPTISUpdate0101.jpg)
เป้าหมายที่หลากหลายของยางรถยนต์ไร้ลม
นอกเหนือจากการปลดล็อกปัญหาในการใช้ยางแบบเติมลม Michelin ยังมุ่งหวังให้ UPTIS แก้ไขปัญหาจากการใช้ยางรถยนต์ในอีกหลากหลายมิติ
ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
จากประสบการณ์ใช้รถใช้ถนน พวกเราคงทราบกันดีว่าเวลาที่อุบัติเหตุยางรั่ว ยางแบน และยางระเบิดนั้นมีโอกาสเกิดได้บ่อย และทำให้ผู้ขับขี่ต้องเสียค่าซ่อมสูงเสมอ UPTIS จึงมุ่งแก้ปัญหานี้ด้วย เพราะยางไร้ลมตัวนี้ผ่านการออกแบบมาให้ลุยกับพื้นผิวขรุขระได้เต็มที่ แม้จะมีวัสดุแหลมคมฝังตัวเข้าไปในล้อ รถก็ยังวิ่งต่อบนท้องถนนได้แบบสบาย ๆ
![UPTIS นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2019/08/UPTISUpdate0102.jpg)
ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ยางรั่ว ยางแบน ยางระเบิด เป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุได้เช่นกัน เพื่อลดอัตราการเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน ผู้ผลิตจึงมุ่งออกแบบ UPTIS ให้มีประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่น ยึดเกาะถนนได้แน่น ทรงตัวและเข้าโค้งได้ดี เพื่อให้นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลมสามารถใช้แทนยางรถยนต์ในรูปแบบปกติได้อย่างไร้ที่ติ
![UPTIS นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2019/08/UPTISUpdate0103.jpg)
ลดขยะจากยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ
ทีมงานผู้ทดลองยางชนิดนี้ระบุว่าหากยาง UPTIS ถูกนำไปใช้จริงอย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยลดปริมาณขยะจากล้อยางที่เสื่อมสภาพ เพราะการใช้งานและการบำรุงรักษาผิดวิธีในแต่ละปีลงได้ถึง 20% หรือประมาณ 200 ล้านเส้นทั่วโลก นอกจากนี้ยังช่วยลดมลพิษจากกระบวนการกำจัดขยะประเภทยางรถยนต์ลงได้อีกด้วย ซึ่งนั่นย่อมเกี่ยวโยงไปถึงการลดปริมาณการผลิตยาง และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ ลงตามไปด้วย
![UPTIS นวัตกรรมยางรถยนต์ไร้ลม](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2019/08/UPTISUpdate0104.jpg)
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยางรถยนต์ไร้ลมรุ่นนี้ ยังอยู่ในกระบวนการทดสอบและพัฒนา คาดว่าจะสามารถนำออกมาใช้จริงได้ในปี 2024 และจะมีการเจาะตลาดกลุ่มรถขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่ด้วย ที่น่าสนใจคือ Michelin ไม่ใช่ผู้ผลิตยางรายแรกที่มีแนวคิดสร้างยางรถยนต์ไร้ลม ออกมาแก้ไขปัญหาการใช้ล้อเติมลม แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Goodyear ก็ได้ออกมาเปิดตัวแนวคิดผลิตยางชนิดนี้เช่นกัน ใช้ชื่อว่า ‘Aero’ โดยตั้งใจออกแบบให้เป็นทั้งล้อที่ใช้วิ่งบนถนน และเป็นใบพัดสำหรับรถยนต์บินได้แห่งโลกอนาคต (Flying Cars)
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการยางรถยนต์ ใครจะเป็นผู้ชนะในสนามประลองประสิทธิภาพของยางรถยนต์ไร้ลมบนท้องถนนจริง ภายใต้นวัตกรรม ‘Airless Technology’
ที่มา:
https://www.dezeen.com/2019/06/19/michelin
https://www.designboom.com/technology/michelin
https://www.autodeft.com/deftreport/michelin-uptis-air-free-tyre-prototype