![รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/AW-Electric-Vehicle-01-scaled-owiaep2ohto2z0xepj0iv1oejqs8u929qm6ikzk1mo.jpg)
รู้จัก รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร ทำไมถึงเป็นทางเลือกใหม่ของคนรักษ์โลก
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) อาจฟังดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับยุคนี้ แต่ความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลกเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 1900 แล้ว แต่เพิ่งจะได้รับความสนใจและมีการหันมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันอย่างจริงจังมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 21 (ตั้งแต่ พ.ศ. 2544-2643) ด้วยหลักการทำงานที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ น้ำมันหรือพลังงานอื่น ๆ ที่มีการเผาไหม้ จึงทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญเพื่อช่วยโลกให้สะอาดและน่าอยู่ขึ้น
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร แล้ว นอกเหนือจากเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อดีอะไรอีกบ้าง
รู้จัก ‘รถยนต์ไฟฟ้า’
![ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-02-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากไฟฟ้า 100% โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ถูกเก็บไว้ในแบตเตอรีหรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบต่าง ๆ หรือให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เป็นการแปลงพลังงานจากแบตเตอรีมาใช้ในการขับรถ ไม่มีกลไกลอะไรซับซ้อนเหมือนรถยนต์ใช้น้ำมันที่ต้องอาศัยการจุดระเบิดเผาไหม้เพื่อขับเคลื่อน จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีเครื่องยนต์เงียบ และไม่มีไอเสียจากการเผาผลาญพลังงาน และนอกจากรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีข้อดีอื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ประหยัดค่าซ่อมบำรุง ค่าน้ำมัน เพราะใช้พลังงานมาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลงที่นับวันมีแต่จะยิ่งมีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และด้วยความที่ไม่มีเครื่องยนต์ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การดูแลรักษาจึงง่ายและประหยัดกว่า
- อัตราเร่งให้แรงบิดที่เร็วทันใจแทบจะทันที เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ส่งผลให้การทำงานมีเสียงเบาเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และทำให้มีอัตราการเร่งที่เร็ว ปราดเปรียว ตอบสนองความต้องการในการขับขี่ของผู้ขับได้ดั่งใจ
- ไม่เสียเวลาแวะเติมน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งรีบตอนเช้าที่น้ำมันในถังใกล้จะหมดแล้วไม่มีเวลาแวะเติมหรือประเมินแล้วว่าขับไปไม่ถึงปั๊มแน่ ๆ แต่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตที่บ้านได้ เสียบชาร์จทิ้งไว้ระหว่างที่เราหลับ พักผ่อน พอตื่นเช้ามาก็สามารถใช้งานได้ทันที
ในปัจจุบันประเทศไทยเองก็มีการสร้างและพัฒนาสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าหรือสถานี EV Charger ในวงกว้างมากขึ้น หมดปัญหาหากรถแบตหมดระหว่างทาง สามารถแวะชาร์จตามสถานีที่ให้บริการได้เลย
ระบบของรถยนต์ไฟฟ้า แบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้
![รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-03-scaled.jpg)
1. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) – ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีเพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน สามารถชาร์จไฟได้สม่ำเสมอ โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 6-8 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จแบบเร็ว
![รถยนต์ไฟฟ้า อี พาวเวอร์ (E-Power)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-04-scaled.jpg)
2. อี พาวเวอร์ (E-Power) – เป็นเทคโนโลยีที่มีการผสมผสานการทำงานระหว่างระบบ Hybrid กับ EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี แล้วส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า หรือให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ พลังงานไฟฟ้าจะถูกสร้างขึ้นจากเครื่องยนต์ แต่ตัวรถจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (แบบรถยนต์ไฟฟ้า EV) ไม่มีการชาร์จไฟ เพียงเติมน้ำมันก็ใช้งานได้ตามปกติแล้ว
![รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-05-scaled.jpg)
3. รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) – มีรูปแบบการทำงานที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ผสมกับ พลังงานไฟฟ้า ระบบจะทำงานเองอัตโนมัติ โดยมอเตอร์จะช่วยออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะทำงานต่อ หากในกรณีรถติดหรือรถหยุดนิ่ง ถ้ารถมีแบตเตอรีมากพอเครื่องยนต์จะดับ แล้วดึงไฟจากแบตเตอรีมาใช้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ไฟหน้ารถ แอร์ เครื่องเสียง
![รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-06-scaled.jpg)
4. รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) – หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด ผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล เข้ากับ แบตเตอรีขนาดใหญ่ที่ชาร์จไฟได้ ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรีให้เต็มประมาณ 4-6 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีอย่างเดียวประมาณ 20-50 กิโลเมตร แต่ก็ยังสามารถกลับมาใช้ระบบไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าได้
![รถพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-07-scaled.jpg)
5. รถพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell) – รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน (พลังงานสะอาด) มาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อนำไปขับเคลื่อนให้รถยนต์แล่นไปได้ โดยในโครงสร้างจะมีแผงเซลล์เชื้อเพลิงที่เก็บไฮโดรเจนในรูปแบบของเหลว มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนควบคู่กับการชาร์จกระแสไฟฟ้าและแบตเตอรี โดยมีหลักการทำงานคือ ส่งไฮโดรเจนและอากาศที่มีออกซิเจนเข้าไปสู่แผงเซลล์เชื้อเพลิง สร้างกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี แล้วกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรีก็จะถูกส่งไปที่มอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์
![รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว (Plug-in Electric Vehicle: PEVS)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-08-scaled.jpg)
6. รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว (Plug-in Electric Vehicle: PEVS) – คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ PHEV แต่จะมีแบตเตอรีขนาดใหญ่เป็นแหล่งพลังงานหลักเพียงอย่างเดียว เมื่อแบตเตอรีหมดจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จประจุใหม่ แยกตามการใช้งานได้ดังนี้
- รถยนต์ไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี 100% ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่มีแบตเตอรีขนาดใหญ่ มีระยะทางการวิ่งที่จำกัด ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรีและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ในการใช้งานและเส้นทางการเดินทาง
- รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicles: FCEV) เป็นเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากการเติมเชื้อเพลิงภายนอก ไม่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศจากรถยนต์โดยตรง มีเพียงการปลดปล่อยน้ำเท่านั้น โดยโครงสร้างจะมีแบตเตอรี, แผงเซลล์เชื้อเพลิงหรือ Fuel Cell Stack, ถังแรงดันสูงเพื่อเก็บไฮโดรเจนในรูปแบบของเหลว, มอเตอร์ไฟฟ้า ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟฟ้า ส่วนหลักการทำงานจะส่งไฮโดรเจนและอากาศที่มีออกซิเจนเข้าไปสู่แผงเซลล์เชื้อเพลิง เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี จากนั้นกระแสไฟฟ้าจะถูกส่งไปที่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์
แนะนำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขายในประเทศไทย 2020
พอพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนคงจะนึกถึงแต่ Tesla เพราะถือเป็นแบรนด์ที่บุกเบินรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าแรก ๆ เลย แต่สำหรับชาวไทยแล้วอาจจะยังเป็นเรื่องยากอยู่ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เราจึงทำการรวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขายในประเทศไทย ปี 2020 มาฝากกัน
![รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-09-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ราคา 1,190,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-10-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ราคา 1,990,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า FOMM ONE](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-11-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า FOMM ONE ราคา 664,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Ioniq Electric](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-12-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Ioniq Electric ราคา 1,749,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-13-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE ราคา 2,290,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron 55 quattro](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-14-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron 55 quattro ราคา 5,099,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า Jaguar I-Pace](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-15-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า Jaguar I-Pace ราคา 5,499,000-6,999,000 บาท
![รถยนต์ไฟฟ้า Porsche Taycan](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/10/AW-Electric-Vehicle-16-scaled.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า Porsche Taycan ราคาเริ่มต้นที่ 6,990,000 บาท
สำหรับใครที่เล็งจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะครับว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองหรือเปล่า และขอบอกไว้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าจะไปในทิศทางใดต่อไป แต่ที่สำคัญเลยคือการเป็นเจ้าของรถยนต์ต้องหมั่นดูแลรักษาให้ดี เราขอแนะนำ รักรถ ชอบรถ ต้องรู้ 7 วิธีการบำรุงรักษารถยนต์ ที่ถูกต้อง