“Shibari (ชิบาริ)” ศาสตร์แห่งเชือก ศิลปะ วัฒนธรรม แห่งเซ็กซ์
Shibari ชิบาริ คงไม่ใช่ชื่อ ดาราหนังผู้ใหญ่ อย่างแน่นอน… เชื่อว่าทุกคนต้องเคยชมงานอาร์ตหนังผู้ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นกันมาบ้าง แล้วเคยสังเกตกันบ้างไหม ? บางฉากในหนังเหล่านี้จะมีการมัดเชือกไว้พันธนาการเหล่านางเอกสาว ก่อนจะเข้าฉากโรแมนติก บรรเลงเพลงรักกันอย่างเมามันส์
รู้หรือไม่ว่า…การมัดเชือกก่อนมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่แค่การกระทำที่เกิดขึ้นจากบทละครเท่านั้น การพันธนาการเหล่านี้ยังเกิดเป็นรสนิยม มีคนชื่นชอบพฤติกรรมการบรรเลงเพลงรักด้วยการโดนมัดเชือกอยู่มากเลยทีเดียว จนการมัดเชือกเหล่านี้มีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง และถูกขนานนามว่า “Shibari ชิบาริ”
“Shibari ชิบาริ” คืออะไร… ในประเทศญี่ปุ่นและวงการหนังผู้ใหญ่
Shibari (ชิบาริ) เป็นศาสตร์ศิลปะการมัดเชือกอย่างนึงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เหล่าศิลปินประยุกต์นำชิบาริมา สื่อถึงความคลั่งไคล้ ความอยากตอบสนองอารมณ์ที่เจ็บปวด ด้วยการสร้างความสุข ในรูปแบบหนังผู้ใหญ่ รวมไปถึงการถ่ายแบบ เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมที่เจ็บปวดแต่งดงามต่อผลงานศิลปะชิ้นนั้น
อีกทั้ง “Shibari” ไม่ได้มีไว้สำหรับการเสพเพื่อตอบสนองอารมณ์เพียงอย่างเดียว ยังรวมไปถึงรูปแบบ และเทคนิคการมัดเชือกที่แอบแฝงศิลปะไว้ในผลงานอย่างประณีต ด้วยการมัดแบบญี่ปุ่น ปมล็อกต่าง ๆ การไขว้ของเชือกที่แตกต่างกัน ถ้าสังเกตดี ๆ จะมีการมัดที่ไม่เหมือนกัน
พูดถึงตรงนี้บางท่านอาจยังเข้าใจว่า “Shibari ชิบาริ” ก็คือรสนิยมอย่างนึงในด้านของเซ็กซ์ และภาพนู้ดของสาว ๆ เพียงอย่างเดียว ทาง Thomas Thailand จึงอยากบอกเล่า ประวัติที่มาที่ไป ในรูปแบบของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ของ Shibari ชิบาริ ให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของการพันธนาการ “Shibari(ชิบาริ)”
หรือที่เรียกกันในสมัยก่อนนามว่า “คินบาคุ”
จุดเริ่มต้นของ “Shibari ชิบาริ” ต้องย้อนไปสมัยเอโดะในยุคของซามูไรญี่ปุ่นสมัยนั้นจะมีการมัดเชือกที่เรียกว่า “คินบาคุ” ไว้พันธนาการเหล่านักโทษ เชลยศึก และทาส ซึ่งเป็นปมการมัดที่เหนียวแน่นและเป็นที่นิยม เพราะว่าโลหะนั้นมีราคาที่สูงทำให้การใช้เชือกนั้นย่อมดีกว่า
ด้วยความที่มีนักโทษมากมายถูกมัดไว้ ก็ย่อมมีผู้หญิงที่ถูกจับมาเป็นเชลยอย่างแน่นอน เมื่อเกิดความต้องการของเหล่าซามูไร ก็จะหนีไม่พ้นนักโทษเหล่านี้ที่ต้องมาตกเป็นเหยื่อของความใคร่ให้กับผู้เป็นนายอยู่เป็นประจำ จนเกิดเป็นรสนิยมทางเพศรูปแบบใหม่ ที่พอเห็นหญิงสาวถูกพันธนาการ สูญสิ้นความมีอิสระก็มักจะเกิดความใคร่ในหมู่นักรบซามูไร
จน “คินบาคุ” ก็ถูกเปลี่ยนชื่อตามยุคสมัยเป็น “Shibari ชิบาริ” ในช่วงที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการเวลาที่ผ่านไป การพันธนาการ หรือการลิดรอนความอิสระได้ค่อย ๆ หมดลงในสังคมปัจจุบัน ชิบาริ (Shibari) จึงกลายเป็นงานศิลปะที่สวยงาม ที่คงอยู่ในพื้นฐานความเจ็บปวดโดยเต็มใจ ซึ่งคือหนึ่งในรสนิยมทางเพศของกลุ่ม “BDSM” ชนิดหนึ่ง
การสืบทอดต่อกัน จนมาเป็น วัฒนธรรมทางศิลปะของ
“Shibari ชิบาริ” โดย Seiu Ito
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นถึงรสนิยมทางเพศที่สืบเนื่องมาจากเหล่าซามูไร รวมไปทั้งเชลยบางคนที่ชื่นชอบก็มีเช่นกัน จนมาถึงปัจจุบัน และถ้าไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ ผู้ที่นำศาสตร์ ชิบาริ เข้ามาเผยแพร่ให้เป็นศิลปะ จนเกิดเป็นรสนิยมขยายไปทั่วโลก
บุคคลนี้มีนามว่า “Seiu Ito” เป็นนักวาดภาพญี่ปุ่นคนแรกที่เริ่มทำให้ศิลปะแห่งความเจ็บปวดกลับมาเป็นที่แพร่หลายอีกครั้ง ด้วยการที่เขานำไอเดียจากการแสดงคาบูกิ ในสมัยเอโดะ ที่มีการแสดงโชว์ ร่ายรำ รวมทั้งการทรมานร่างกายด้วยการถูกมัดไว้ Seiu Ito จึงเกิดไอเดียนำผู้หญิงมาพันธนาการด้วยความเต็มใจจากฝ่ายหญิง และมัดไว้เพื่อเป็นต้นแบบในการวาดภาพ แต่ในสมัยนั้นภาพวาดญี่ปุ่นยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก
จนมาถึงปัจจุบันหลาย ๆ อย่างได้เปลี่ยนไป รวมทั้งรสนิยมทางเพศด้วยที่ถูกยอมรับมากขึ้น การร่วมเพศที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจทั้งผู้กระทำและถูกกระทำ ทำให้ “Shibari ชิบาริ” มีเสน่ห์ต่อเรื่องเซ็กซ์ในด้านที่ว่า ยิ่งมัดเชือกที่แน่นเท่าไหร่ แก้ยากเท่าไหน ก็ยิ่งสร้างความสุขได้นานเท่านั้น ทำให้คนที่มีความสนใจใน “Shibari ชิบาริ” ได้กลับมาเสพงานของอาจารย์ Seiu Ito อีกครั้ง
เชือกชิบาริทำมาจากอะไร จะทำให้ร่างกายบอบช้ำหรือเปล่า ?
เชือกชิบาริ ทำมากจากเส้นใยของ ปอกระเจา ที่ถักทอด้วยความละเมียดละไม ทำให้ไม่สร้างความระคายเคืองต่อผิวพรรณมากนัก นอกจากรอยผูกที่มักจะหายในไม่ช้า ซึ่งงานสร้างสรรค์ของทางญี่ปุ่นมีความละเอียดอ่อนมาก ๆ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก งานจัดแจกันดอกไม้ งานประดิษฐ์อื่น ๆ ที่สร้างด้วยความละเมียดละไม ถ้าเคยเห็นสิ่งเหล่านี้จากญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นวัสดุที่ดีเยี่ยมแทบทั้งสิ้น
โดยทางฝั่งยุโรปก็ได้ไอเดียจากเชือก ชิบาริ ที่เป็นต้นแบบในการทำโซ่ แส้ กุญแจมือ ที่ทุกท่านเคยได้ยินหรือใช้กัน ซึ่งก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกลุ่มคนที่มีรสนิยมทางเพศสไตล์คล้าย ๆ กัน
Shibari รสนิยมทางเพศสู่ การบำบัด สร้างสมาธิ เยียวยาจิตใจ
ฉะนั้นแล้ว “Shibari ชิบาริ” ไม่ได้มีเอฟเฟ็กต์ต่อเรื่องเพศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจุบันมีการนำมาใช้ควบคู่ไปกับศิลปะเพื่อการบำบัด อาทิ การทักถอเชือก เทคนิคการมัดเชือก หรือแม้กระทั่งเรื่องเพศที่ทำให้เยียวยาสถานภาพจิตใจคู่รักในหลาย ๆ คู่ได้ดีทีเดียว
ในเรื่องของความเหมาะสม ความดีงาม ด้านนี้ขึ้นอยู่กับ ความคิดเห็นส่วนตัวและรสนิยมของแต่ละคน บางคนที่ไม่ชอบก็ไม่ใช่ว่า รสนิยมทางเพศอย่าง “Shibari ชิบาริ” นั้นไม่ดี หรือ ผิดศีลธรรมไปซะหมด เพราะเรื่องอย่างนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมทางเพศของคน ๆ นั้น จิตใจ และการให้คุณค่ากับมัน
ไม่แปลกที่เรื่องของรสนิยมทางเพศแปลอย่าง Shibari ชิบาริ เองก็ตาม จะมีผู้คนหันมาสนใจและศึกษาเพิ่มขึ้น ด้วยยุคสมัยที่เปิดกว้าง จากใต้ดิน สู่สังคม ถ้าให้เปรียบก็เหมือนงานเพลง Underground ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันมีศิลปินหลาย ๆ ท่านเริ่มมีชื่อเสียงในวงการมากขึ้น ดังนั้นแล้วการเปิดใจ ยอมรับ และมองงานไปในทิศทางที่ดีก็ไม่แปลกอะไร
“ถ้าจะตัดสินคน ๆ นึงด้านศีลธรรม คุณค่า และความดี ของพวกนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจคนมากกว่า รสนิยมทางเพศด้วยซ้ำ”