เนรมิตรพื้นที่สีเขียวในบ้านแบบไม่เอาท์
ด้วยไม้ประดับในร่มหลากรูปแบบ
พื้นที่สีเขียวขนาดย่อมตามมุมเล็กๆ ของบ้าน คงเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่เยียวยาความเหนื่อยล้าจากวันทำงานของหนุ่มๆ ได้ หากการแต่งบ้านด้วยไม้ประดับนานาพรรณ สามารถช่วยขับเคลื่อนไอเดียในการทำงานและการใช้ชีวิตได้ดี ทำไมคุณไม่ลองหาวันว่างสักวัน ออกไปเสาะหา ‘ไม้ประดับในร่ม’ สายพันธุ์ที่ใช่ มาวางเฉิดฉายไว้ในบ้านสักมุม
พรรณไม้ประดับในร่มที่ได้รับความนิยม
พรรณไม้อวบน้ำ (Succulent)
เป็นไม้ประดับที่น่าจะถูกใจคนชื่นชอบสไตล์มินิมอลไม่น้อย เพราะมีลำต้นกะทัดรัด ใช้พื้นที่ปลูกน้อย ที่สำคัญยังดูแลง่าย โดยกลุ่มที่นิยมในตลาดคงหนีไม่พ้นตระกูลแคคตัสหรือกระบองเพชร, กุหลาบหิน, อิชิเวเรีย, ฮาเวอร์เทีย ฯลฯ โดยพืชในตระกูลนี้มีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์คือ มีลำต้นอวบน้ำ ปลายใบมนหรือเรียวแหลมเป็นติ่งหนาม บางชนิดมีผิวบางใสเหมือนหยดน้ำ และมันเงาคล้ายลงแวกซ์เคลือบไว้ ด้วยลักษณะภายนอกเช่นนี้จึงป้องกันการคายน้ำออกจากลำต้นได้ เนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ค่อยชอบน้ำและแสงแดด จึงเหมาะกับการเลี้ยงไว้ในบ้านเป็นอย่างมาก
ด้วยขนาดของพรรณไม้อวบน้ำที่ค่อนข้างเล็ก พืชตระกูลนี้จึงได้รับความนิยมนำมาประดับตามมุมเล็กๆ ของบ้าน หรือวางตกแต่งบนโต๊ะทำงาน สีสันที่ดูละมุนละไมจึงกลายเป็นจุดพักสายตาให้กับผู้มองมาได้เป็นอย่างดี อีกจุดเด่นที่ทำให้ Succulent ได้รับความนิยมคือ เป็นพืชที่เลี้ยงง่ายมาก ทนทาน และต้องการน้ำในปริมาณน้อย เพียงรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอ นอกจากนี้บางสายพันธุ์ ผู้เลี้ยงยังขยายพันธุ์เองได้โดยง่าย แค่เด็ดลำต้นอ่อนหรือส่วนที่งอกขึ้นมาใหม่ไปปักลงดินอีกกระถาง แล้วให้น้ำในลักษณะเดียวกัน รากของมันจะงอกขึ้นมาได้เอง และพร้อมโตบโตเป็นต้นใหม่ในเร็ววัน ส่วนการออกดอกนั้นอาจต้องใช้เวลาเลี้ยงนานพอสมควร และต้องอยู่กับสภาพแวดที่เอื้อต่อการติดดอกด้วย แต่ถ้าคุณผู้ชายไม่อยากรอนาน เวลาไปเลือกซื้อ สามารถให้คนขายช่วยเลือกต้นที่พร้อมออกดอกแล้วให้เลยก็ได้
พรรณไม้ล้มลุก (Herbaceous Plant)
พรรณไม่ชนิดนี้ดูแลง่ายมาก ถือว่าไม่เป็นภาระให้กับไลฟ์สไตล์เร่งรีบของหนุ่มๆ เลย โดยมีลักษณะเป็นไม้เนื้ออ่อน มีทั้งที่เป็นลำต้นตรง เป็นเถาเลื้อยขึ้นบน และเป็นพุ่มเป็นกอแล้วใบย้อยลงล่าง จุดร่วมที่คล้ายกันของไม้ล้มลุก 3 รูปลักษณ์นี้ คือ ชอบความชื้นและแสงแดดรำไร หากอยู่กลางแดดร้อนจัดนานจะเสี่ยงทำให้ปลายใบไหม้เป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาลได้ เพราะลำต้นสูญเสียน้ำมากเกินไป ไม้พรรณนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาจัดใส่กระถางเล็กๆ แล้ววางหรือแขวนเพื่อเพิ่มสีสันตามมุมต่างๆ ของบ้าน โดยเฉพาะในจุดหลบมุมที่แดดส่องไม่ถึง และมีความชื้นสม่ำเสมอ เช่น ในห้องน้ำ และในห้องครัว สำหรับไม้ล้มลุกที่คนนิยมนำมาประดับในบ้านนั้นมีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น บารมี, เขียวหมื่นปี, เศรษฐีเรือนกลาง และฟิโลใบหัวใจ (Heart-Leaf Philodendron)
ไม้ประดับประเภทพรรณไม้ล้มลุกบางชนิด มีอายุยืนยาวหลายปีเลยทีเดียว หากดูแลอย่างดีและถูกวิธีจะไม่ทำให้ล้มลุกง่ายเหมือนชื่อแน่นอน ที่สำคัญเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ไม้ประดับของคุณมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จนสามารถนำไปซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนกับพรรณไม้อื่นๆ ที่กลุ่มนักเล่นไม้ประดับกำลังตามหากันอยู่ก็ได้ ถือเป็นการสร้างคุณค่าให้ไม้ประดับได้อีกทางหนึ่ง
พรรณไม้เลี้ยงในน้ำ (Aquatic Plants)
Aquatic Plants มีทั้งแบบโตในน้ำอย่างเดียว และชนิดที่โตได้ทั้งในน้ำและในดิน เรียกอีกอย่างว่าพรรณไม้กึ่งน้ำ โดยทั้งสองมีความชอบที่เหมือนกันคือ ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงรากตลอดเวลา ทั้งนี้พรรณไม้เลี้ยงในน้ำมีทั้งประเภทที่เป็นเถา กอ และหัว กลุ่มที่เป็นเถาและกอ ที่เห็นกันบ่อยๆ มีทั้งพลูด่าง บัวอเมซอน แอร์โรว์เฮด (Arrow Head) กลุ่มนี้สามารถแช่ส่วนรากลงไปในน้ำได้แล้วปล่อยให้ลำต้นเจริญเติบโต ส่วนไม้น้ำประเภทหัว มีต้นไม้ที่นิยมปลูกกันมากที่สุด คือ ต้นว่านสี่ทิศ เวลาปลูกต้องคอยระวังไม่ให้ส่วนหัวสัมผัสกับน้ำโดยตรง อธิบายง่ายๆ คือ ห้ามแช่ทั้งหัวลงในน้ำ แต่ให้หย่อนแค่ปลายรากลงสัมผัสกับผิวน้ำก็เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนหัวเน่าก่อนที่ใบจะแตกออกมาเป็นกอ
สำหรับไอเดียการนำไม้ประดับประเภทเลี้ยงในน้ำมาตกแต่งในบ้าน นอกจากวางโชว์ในห้องน้ำและห้องครัวอย่างที่เราเห็นว่าเป็นที่ประจำของต้นพลูด่างแล้ว ยังสามารถนำพรรณไม้น้ำเหล่านี้มาวางหรือแขวนรับแสงแดดรำไรตามริมหน้าต่าง หรือใต้หลังคาได้ด้วย โดยมีเทคนิคเพิ่มเติมคือ ควรเลี้ยงพรรณไม้น้ำในภาชนะใส เช่น แก้ว หรือพลาสติก เพื่อให้ผู้เลี้ยงสังเกตการเจริญเติบโตของรากและระดับน้ำที่ลดลงได้โดยง่าย แน่นอนว่าสีคลีนๆ ของภาชนะสีใส ยังตัดกันได้ดีกับสีเขียวสดๆ แซมเหลือง แซมขาว ของไม้ประดับเหล่านี้ได้อีกด้วย นี่จึงเป็นเสน่ห์สะท้อนเอกลักษณ์สไตล์มินิมอล ที่ทำให้คนรักไม้ประดับต่างตกหลุมรักการแต่งบ้านด้วยเทคนิคนี้
เป็นอย่างไรก็บ้างกับไอเดียเลือกไม้ประดับในบ้านที่นำมาฝาก หวังว่างานอดิเรกอย่างการเติมเต็มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน จะเยียวยาวันเหนื่อยๆ ของคุณ และชาร์จพลังให้พร้อมลุยงานในวันต่อไปได้
