![กีตาร์โปร่ง](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/Artboard-1100-1-oxyos1y62mb14bk891zkufkukbbswrl71k30mqdttc.jpg)
รู้ก่อนซื้อกีตาร์โปร่ง เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง
กีตาร์โปร่ง (Acoustic Guitars) เครื่องดนตรีที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเชื่อว่ากีตาร์โปร่งยังเป็นเครื่องดนตรีเริ่มต้นชิ้นแรกของใครหลายคนอีกด้วย เพราะนอกจากจะเคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเล่นแล้ว กีตาร์โปร่งยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหัดเล่นดนตรี ตั้งแต่ตีคอร์ดตามเพลงธรรมดา หรือเล่นดนตรีเฉพาะแนว Folk, Country และ Fingerstyle ซึ่งกีตาร์โปร่งสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท เรามาทำความรู้จักกันว่ากีตาร์โปร่งคืออะไร มีรายละเอียดอะไรที่ควรรู้ก่อนซื้อบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกกีตาร์โปร่งให้เหมาะกับตัวเอง
กีตาร์โปร่ง คืออะไร ?
กีตาร์โปร่ง คือ เครื่องดนตรีชนิดเครื่องสาย เล่นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เสียงของกีตาร์โปร่งเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย เมื่อเราดีดหรือเกา (finger picking) แรงสั่นสะเทือนของสายจะถูกส่งไปยังแผ่นไม้หน้า (top) ทำให้แผ่นไม้หน้าสั่นสะเทือนกับอากาศที่อยู่รอบ ๆ ทำให้เกิดเป็นเสียงกีตาร์ที่เราได้ยินกันนั่นเอง
แต่ละส่วนของกีตาร์โปร่งเรียกว่าอะไรบ้าง ?
เราจำเป็นต้องรู้จักส่วนประกอบของกีตาร์โปร่งเอาไว้เพื่อดูสเปกกีตาร์ที่เราต้องการ ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ที่ต้องรู้ มีดังนี้
![กีตาร์โปร่ง](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/11/Artboard-2100-1.jpg)
- แผ่นไม้หน้า (Top/Soundboard) เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการส่งเสียงของกีตาร์โปร่ง ไม้แต่ละชนิดที่นำมาเป็นส่วนประกอบล้วนส่งผลต่อเสียงที่ได้ เพราะไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน ทำให้การสะท้อนของเสียงต่างกันด้วย นอกจากแผ่นไม้หน้าที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว การวางโครง Bracing ใต้แผ่นไม้ยังส่งผลโดยตรงต่อเสียงด้วยเช่นกัน
- แผ่นไม้หลัง (back) และไม้ข้าง (sides) ไม้ทั้งสองส่วนนี้ ทำหน้าที่สะท้อนเสียงให้ก้องกังวานออกมา และไม้แต่ละชนิดที่นำมาประกอบส่วนไม้หลังและไม้ข้างก็ส่งผลต่อคาแรกเตอร์ของเสียงกีตาร์เช่นเดียวกับแผ่นไม้หน้า
- คอ (neck) เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างตัวกีตาร์กับหัว (headstock) ชนิดไม้ที่ใช้ทำส่วนนี้มีผลต่อเสียงโดยรวม และรูปทรงของคอกีตาร์ (neck profile) เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ผู้เล่นจะรู้สึกสบายหรืออึดอัดก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้
- เฟรท (frets) โลหะชิ้นขนาดก้านไม้ขีดไฟ ยึดติดบนแผ่นสี่เหลี่ยมสีดำยาว ๆ หรือ fingerboard มีหน้าที่แบ่งโน้ต สิ่งสำคัญของเฟรทที่จำเป็นต้องดู คือ วัสดุ รูปทรง ขนาด ความโค้ง การเก็บความเรียบร้อยตรงปลายเฟรท เพราะส่งผลต่อเนื้อเสียงและการเล่น
- นัท (nut) สี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ อยู่ตรงปลายสุดของ fingerboard ฝั่งหัวกีตาร์ ทำหน้าที่รองรับแรงกดของสายกีตาร์ วัสดุที่ใช้จะส่งผลต่อเสียงเช่นเดียวกันกับส่วนอื่น ๆ ซึ่งตัวนัทกีตาร์มีให้เลือกทั้งวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์จำพวก graphite กับวัสดุเทียมกระดูก
- ลูกบิด (machine heads/tuners) อะไหล่โลหะ 6 อัน บนส่วนหัวกีตาร์ ทำหน้าที่ยึดสายกีตาร์
- แซดเดิล (saddles) และ ไม้หย่อง (bridge) แซดเดิลเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนไม้หย่องอีกทีนึง ทำหน้าที่คล้ายกับนัทกีตาร์ แต่แซดเดิลอยู่ในตำแหน่งของตัวกีตาร์ ส่วนไม้หย่องจะคอยรั้งสายกีตาร์เอาไว้
- ปิ๊กการ์ดกีตาร์ (pickguard) คือ วัสดุแผ่นบาง มักวางถัดจากโพรงเสียงฝั่งสาย ปิ๊กการ์ดมีไว้ป้องกันไม่ให้แผ่นไม้หน้าเป็นรอยจากการตีคอร์ด แต่ปัจจุบันมีการปรับทรงปิ๊กการ์ดให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เช่น กีตาร์ของ Gibson
ประเภทของกีตาร์โปร่ง
หลัก ๆ แล้วกีตาร์โปร่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กีตาร์คลาสสิกหรือกีตาร์สายเอ็น (classical guitar) กับ กีตาร์โปร่งสายเหล็ก (steel string guitar)
![กีตาร์คลาสสิก (Classical Guitar)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/11/Artboard-3100-1.jpg)
1. กีตาร์คลาสสิก (Classical Guitar) มี fingerboard กว้าง เพื่อให้นิ้วมีพื้นที่ในการเล่น มักใช้สายเอ็นหรือสายไนลอน ส่วน 3 สายบน (สายเบส) ทำด้วยไนลอนหรือใยไหมพันด้วยเส้นโลหะ ทำให้มีความนุ่มนวล เวลาเล่นจะไม่เจ็บนิ้วเหมือนสายโลหะ
![กีตาร์โฟล์ก (Folk Guitar)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/11/Artboard-4100-1.jpg)
2. กีตาร์โฟล์ก (Folk Guitar) ลักษณะทั่วไปจะเป็นแกนหมุน มีลูกบิดเป็นโลหะ ส่วนคอและ fingerboard จะเล็กกว่ากีตาร์คลาสสิก แต่ตัวกีตาร์มีความใหญ่และแข็งแรงกว่า สายกีตาร์มักเป็นสายโลหะ เหมาะกับการเล่นด้วย Pick Guitar หรือเกา (finger picking) เสียงที่ได้ จะดังชัดเจนและสดใสกว่ากีตาร์คลาสสิก
![กีตาร์อาร์ชทอป (Archtop Guitar)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/11/Artboard-5100-1.jpg)
3. กีตาร์อาร์ชทอป (Archtop Guitar) ลักษณะคล้ายกับกีตาร์โฟล์ก แต่ส่วนด้านหน้าจะโค้งและโพรงเสียงไม่ใช่แบบช่องกลม แต่จะเป็นรูปคล้ายตัว f อยู่ 2 ช่องบนด้านหน้าของตัวกีตาร์ ส่วนสะพานยึดสายด้านล่างจะเป็นแบบหางปลา (tail piece) เหมาะสำหรับเล่นดนตรี Jazz
![กีตาร์ลูกผสมระหว่างกีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้า (Semi Acoustic Guitar)](https://thomasthailand.co/wp-content/uploads/2020/11/Artboard-6100.jpg)
4. กีตาร์ลูกผสมระหว่างกีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้า (Semi Acoustic Guitar) ส่วนลำตัวจะโปร่งและแบนราบ มี pickup (ไมค์ของกีตาร์) ติดอยู่บนลำตัว และมีโพรงเสียงเป็นตัว f แบบ Archtop จุดเด่นของกีตาร์ประเภทนี้คือ เล่นแบบไม่ต่อเครื่องขยายก็ได้ฟีลกีตาร์โปร่ง หากต่อเครื่องขยายก็ได้ฟีลกีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์ประเภทนี้พบบ่อยในดนตรี Blues และ Jazz
สำหรับใครที่กำลังเลือกกีตาร์โปร่งให้เหมาะกับตัวเองอยู่ นอกจากจะต้องเลือกจากวัสดุได้คุณภาพแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องรู้ด้วยว่าตัวเองเล่นดนตรีสไตล์ไหนจะได้เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หากเป็นมือใหม่หัดเล่นก็กีตาร์โปร่งสายเอ็นหรือสายเหล็ก แต่ถ้าเอาไปเล่นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ อัดเพลงลงยูทูบ ก็แนะนำ Semi Acoustic Guitar ที่มี pickup ไม่ต้องวุ่นวายต่อไมค์ให้ต้องกังวลเรื่องเสียงเพี้ยนที่อาจตามมาได้