รู้ก่อนซื้อกีตาร์โปร่ง เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง
กีตาร์โปร่ง (Acoustic Guitars) เครื่องดนตรีที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเชื่อว่ากีตาร์โปร่งยังเป็นเครื่องดนตรีเริ่มต้นชิ้นแรกของใครหลายคนอีกด้วย เพราะนอกจากจะเคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเล่นแล้ว กีตาร์โปร่งยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหัดเล่นดนตรี ตั้งแต่ตีคอร์ดตามเพลงธรรมดา หรือเล่นดนตรีเฉพาะแนว Folk, Country และ Fingerstyle ซึ่งกีตาร์โปร่งสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท เรามาทำความรู้จักกันว่ากีตาร์โปร่งคืออะไร มีรายละเอียดอะไรที่ควรรู้ก่อนซื้อบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกกีตาร์โปร่งให้เหมาะกับตัวเอง
กีตาร์โปร่ง คืออะไร ?
กีตาร์โปร่ง คือ เครื่องดนตรีชนิดเครื่องสาย เล่นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เสียงของกีตาร์โปร่งเกิดจากการสั่นสะเทือนของสาย เมื่อเราดีดหรือเกา (finger picking) แรงสั่นสะเทือนของสายจะถูกส่งไปยังแผ่นไม้หน้า (top) ทำให้แผ่นไม้หน้าสั่นสะเทือนกับอากาศที่อยู่รอบ ๆ ทำให้เกิดเป็นเสียงกีตาร์ที่เราได้ยินกันนั่นเอง
แต่ละส่วนของกีตาร์โปร่งเรียกว่าอะไรบ้าง ?
เราจำเป็นต้องรู้จักส่วนประกอบของกีตาร์โปร่งเอาไว้เพื่อดูสเปกกีตาร์ที่เราต้องการ ซึ่งส่วนประกอบหลัก ๆ ที่ต้องรู้ มีดังนี้
- แผ่นไม้หน้า (Top/Soundboard) เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการส่งเสียงของกีตาร์โปร่ง ไม้แต่ละชนิดที่นำมาเป็นส่วนประกอบล้วนส่งผลต่อเสียงที่ได้ เพราะไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน ทำให้การสะท้อนของเสียงต่างกันด้วย นอกจากแผ่นไม้หน้าที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว การวางโครง Bracing ใต้แผ่นไม้ยังส่งผลโดยตรงต่อเสียงด้วยเช่นกัน
- แผ่นไม้หลัง (back) และไม้ข้าง (sides) ไม้ทั้งสองส่วนนี้ ทำหน้าที่สะท้อนเสียงให้ก้องกังวานออกมา และไม้แต่ละชนิดที่นำมาประกอบส่วนไม้หลังและไม้ข้างก็ส่งผลต่อคาแรกเตอร์ของเสียงกีตาร์เช่นเดียวกับแผ่นไม้หน้า
- คอ (neck) เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างตัวกีตาร์กับหัว (headstock) ชนิดไม้ที่ใช้ทำส่วนนี้มีผลต่อเสียงโดยรวม และรูปทรงของคอกีตาร์ (neck profile) เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ผู้เล่นจะรู้สึกสบายหรืออึดอัดก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้
- เฟรท (frets) โลหะชิ้นขนาดก้านไม้ขีดไฟ ยึดติดบนแผ่นสี่เหลี่ยมสีดำยาว ๆ หรือ fingerboard มีหน้าที่แบ่งโน้ต สิ่งสำคัญของเฟรทที่จำเป็นต้องดู คือ วัสดุ รูปทรง ขนาด ความโค้ง การเก็บความเรียบร้อยตรงปลายเฟรท เพราะส่งผลต่อเนื้อเสียงและการเล่น
- นัท (nut) สี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ อยู่ตรงปลายสุดของ fingerboard ฝั่งหัวกีตาร์ ทำหน้าที่รองรับแรงกดของสายกีตาร์ วัสดุที่ใช้จะส่งผลต่อเสียงเช่นเดียวกันกับส่วนอื่น ๆ ซึ่งตัวนัทกีตาร์มีให้เลือกทั้งวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์จำพวก graphite กับวัสดุเทียมกระดูก
- ลูกบิด (machine heads/tuners) อะไหล่โลหะ 6 อัน บนส่วนหัวกีตาร์ ทำหน้าที่ยึดสายกีตาร์
- แซดเดิล (saddles) และ ไม้หย่อง (bridge) แซดเดิลเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนไม้หย่องอีกทีนึง ทำหน้าที่คล้ายกับนัทกีตาร์ แต่แซดเดิลอยู่ในตำแหน่งของตัวกีตาร์ ส่วนไม้หย่องจะคอยรั้งสายกีตาร์เอาไว้
- ปิ๊กการ์ดกีตาร์ (pickguard) คือ วัสดุแผ่นบาง มักวางถัดจากโพรงเสียงฝั่งสาย ปิ๊กการ์ดมีไว้ป้องกันไม่ให้แผ่นไม้หน้าเป็นรอยจากการตีคอร์ด แต่ปัจจุบันมีการปรับทรงปิ๊กการ์ดให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เช่น กีตาร์ของ Gibson
ประเภทของกีตาร์โปร่ง
หลัก ๆ แล้วกีตาร์โปร่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กีตาร์คลาสสิกหรือกีตาร์สายเอ็น (classical guitar) กับ กีตาร์โปร่งสายเหล็ก (steel string guitar)
1. กีตาร์คลาสสิก (Classical Guitar) มี fingerboard กว้าง เพื่อให้นิ้วมีพื้นที่ในการเล่น มักใช้สายเอ็นหรือสายไนลอน ส่วน 3 สายบน (สายเบส) ทำด้วยไนลอนหรือใยไหมพันด้วยเส้นโลหะ ทำให้มีความนุ่มนวล เวลาเล่นจะไม่เจ็บนิ้วเหมือนสายโลหะ
2. กีตาร์โฟล์ก (Folk Guitar) ลักษณะทั่วไปจะเป็นแกนหมุน มีลูกบิดเป็นโลหะ ส่วนคอและ fingerboard จะเล็กกว่ากีตาร์คลาสสิก แต่ตัวกีตาร์มีความใหญ่และแข็งแรงกว่า สายกีตาร์มักเป็นสายโลหะ เหมาะกับการเล่นด้วย Pick Guitar หรือเกา (finger picking) เสียงที่ได้ จะดังชัดเจนและสดใสกว่ากีตาร์คลาสสิก
3. กีตาร์อาร์ชทอป (Archtop Guitar) ลักษณะคล้ายกับกีตาร์โฟล์ก แต่ส่วนด้านหน้าจะโค้งและโพรงเสียงไม่ใช่แบบช่องกลม แต่จะเป็นรูปคล้ายตัว f อยู่ 2 ช่องบนด้านหน้าของตัวกีตาร์ ส่วนสะพานยึดสายด้านล่างจะเป็นแบบหางปลา (tail piece) เหมาะสำหรับเล่นดนตรี Jazz
4. กีตาร์ลูกผสมระหว่างกีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้า (Semi Acoustic Guitar) ส่วนลำตัวจะโปร่งและแบนราบ มี pickup (ไมค์ของกีตาร์) ติดอยู่บนลำตัว และมีโพรงเสียงเป็นตัว f แบบ Archtop จุดเด่นของกีตาร์ประเภทนี้คือ เล่นแบบไม่ต่อเครื่องขยายก็ได้ฟีลกีตาร์โปร่ง หากต่อเครื่องขยายก็ได้ฟีลกีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์ประเภทนี้พบบ่อยในดนตรี Blues และ Jazz
สำหรับใครที่กำลังเลือกกีตาร์โปร่งให้เหมาะกับตัวเองอยู่ นอกจากจะต้องเลือกจากวัสดุได้คุณภาพแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องรู้ด้วยว่าตัวเองเล่นดนตรีสไตล์ไหนจะได้เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน หากเป็นมือใหม่หัดเล่นก็กีตาร์โปร่งสายเอ็นหรือสายเหล็ก แต่ถ้าเอาไปเล่นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ อัดเพลงลงยูทูบ ก็แนะนำ Semi Acoustic Guitar ที่มี pickup ไม่ต้องวุ่นวายต่อไมค์ให้ต้องกังวลเรื่องเสียงเพี้ยนที่อาจตามมาได้