มุมมองจากความสำเร็จด้านดนตรี
ที่มาเร็วเกินคาด ของ ภูมิ วิภูริศ
‘ภูมิ วิภูริศ’ ชายหนุ่มที่มี Passion ในเสียงดนตรี เขาโตมากับการฟังเพลงหลากหลายประเภท เริ่มจากการเลือกคัฟเวอร์เพลงที่ชอบลง Youtube โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางหลักของชีวิตอย่างทุกวันนี้ กลายเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่มาพร้อมกับความกดดันในการทำเพลง จนในที่สุดก็เกิดเป็นเพลงที่แต่งขึ้นจากความรู้สึกซื่อสัตย์ที่สุดในชีวิต ผ่านแนวดนตรีที่เขาเรียกว่า Sunshine Music
จากความสุขเล็กๆ น้อยๆ สู่เส้นทางแห่งความฝัน
ภูมิ นิยามดนตรีว่าเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหมือนตอนกลับจากโรงเรียนแล้วได้เล่นกีตาร์สัก 1 – 2 ชั่วโมง เป็นโลกที่ได้แกะคอร์ดเพลงใหม่ ค้นหาและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเครื่องดนตรีชิ้นแรก เริ่มจากกลองชุด ต่อด้วยเล่นกีต้าร์ ตอนอายุ 15 ปี พออายุ 17 ปี ก็อยากลองเขียนเพลงของตัวเอง จนเข้าสู่ปี 2017 ได้ปล่อยอัลบั้มแรกในชีวิตอย่าง ‘Manchild’ กระแสตอบรับจากเพลง Long Gone แทร็คที่ 9 ของอัลบั้ม เข้าไปติดในบล็อก Reddit (แพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการแชร์ลิงก์และข้อมูล) ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วโลก
ด้วยแนวดนตรีเฉพาะตัวของเขาที่เรียกว่า Sunshine Music เขามอง Sunshine ในมุมที่แตกต่าง ว่าเป็นแบบ Life Cycle Of The Sun คือ การที่พระอาทิตย์เคลื่อนไป สามารถสร้างเงาให้ตัวเราได้หลายรูปร่าง อยากตีความว่า แต่ละวันเรามีความรู้สึกหลายแบบ อาจจะไม่ใช่สำหรับตัวเขาเอง แต่ในหนึ่งวัน ของคนๆ หนึ่ง เขาต้องเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง ตอนเช้าอาจจะมีมุมโรแมนติก ตอนกลางวันทำงานเครียด ตอนเย็นวิตกกังวลว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรต่อ คือ เราเล่นกับคอนเซ็ปต์ Sunshine แบบนั้น
ทำให้ตามมาด้วยซิงเกิลที่กลายเป็นชื่อเล่นของเขาไปแล้ว นั่นคือ ‘Lover Boy’ เพลงนี้นี่เองที่ทำให้คนไทยรู้จักเพลงของเขามากขึ้น จนมีโอกาสได้ออกทัวร์ใน Festival และ Live House ใหญ่ๆ ทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นเพลงที่แลกตั๋วเครื่องบินในปีนั้นเลยก็ว่าได้
ความสำเร็จที่มาพร้อมความกดดัน
หลังจากที่ได้ออกทัวร์ไปแล้วในหลายประเทศ ภูมิกลับรู้สึกว่า สิ่งที่เคยฝันว่าอยากทำ ภายใน 20 ปีของการเป็นนักดนตรี กลับทำสำเร็จภายใน 1 ปีเท่านั้นเอง ได้ออกไปทัวร์ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทัวร์รอบเอเชีย รวมถึงเล่น Festival ใหญ่ๆ ทั่วโลก จนรู้สึกว่าอิ่มมากกับสิ่งที่ได้ทำไป เพียงแค่ปล่อยอัลบั้มชุดหนึ่ง และอีกหนึ่งเพลงจากอัลบั้มชุดใหม่ ทำให้ได้โอกาสขนาดนี้ แต่กลับรู้สึกว่า แล้วจะทำยังไงต่อดี แต่งเพลงยังไงต่อ ก็เกิดความเครียดขึ้นมา
ความสำเร็จที่มาอย่างรวดเร็วนี้ ด้านหนึ่งเป็นความสุข แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นความเครียด พร้อมกับความกดดัน มันน่ากลัวตรงที่มาเร็วมาก แล้วคนที่ชวนไปเล่นนี่เขาชวนเพราะอะไร เริ่มคิดมาก แต่สุดท้ายก็ต้องพยายามควบคุมมันให้ได้
เพลงที่ถูกแต่งขึ้นด้วยความรู้สึกซื่อสัตย์ที่สุดในชีวิต
เพลงที่ถูกเขียนขึ้นมาในช่วงที่เครียด มีความวิตกกังวล จากแต่ก่อนเคยเป็นคนหลับง่ายมาก กลายเป็นนอนไม่หลับเลย ทำให้เริ่มสนใจช่วงเวลานั้นว่าสมองคิดอะไรอยู่ กำลังกังวลกับเรื่องอะไร ทั้งๆ ที่อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ทำไมถึงทำให้เรานอนไม่หลับ และหยิบตรงนี้มาเป็นคอนเซ็ปต์ของเพลง Hello, Anxiety เป็นเพลงที่ภูมิซื่อสัตย์กับตัวเองที่สุด ว่าเรากำลังรู้สึกอะไรในตอนนี้ เลือกที่จะพูดกับความวิตกกังวลนี้เหมือนเขาเป็นคนอีกคนหนึ่ง เหมือนเราพูดคุยกับตัวเองในตอนที่นอนไม่หลับว่ารู้สึกอย่างไรนั่นแหละ
เพลงมีความหมายมากกว่าแค่ตัวตน
ภูมิ ยังใช้เพลง Long Gone ปิดโชว์อยู่ เพราะเพลงนี้มีเมสเซจและทัศนคติ ที่อยากจะส่งให้คนมากที่สุดว่า “ไม่ว่าคุณจะเจออะไรมา ไม่ว่าวันนี้จะแย่ขนาดไหน ขอให้คุณฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกเหมือนปลาว่ายน้ำไปด้วยกัน” และยังหวังว่าคนที่ชอบเรา เขาจะชอบจริงๆ ไม่ได้ชอบแค่ความน่ารักของภูมิ ภูมิยิ้มเก่ง ถึงมาฟัง แต่ชอบในตัวดนตรีจริงๆ เมื่อเราไม่อยู่แล้ว งานดนตรีจะได้อยู่ตลอดไป อยากใส่พลังงานเข้าไปในดนตรีจริงๆ มันจะได้เป็นผลงานที่มีพลัง