สูตรอาหารแก้เมาค้างจากก้นครัวต่างแดน
จะปาร์ตี้ประเทศไหนก็เอาอยู่
ขึ้นชื่อว่าหนุ่มสายปาร์ตี้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนๆ ก็คงไม่พลาดติดลิสต์ร้านเหล้า ผับ และบาร์ชื่อดังประจำท้องถิ่นกันไปด้วยเสมอ แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างแดนจะไม่เล่นงาน ทำเอาคุณน็อกจนลุกไปเที่ยววันต่อไปไม่ไหว ออกทริปทั้งทีถ้าไม่อยากเมาแอ๋แบบนี้ จด ‘สูตรอาหารแก้เมาค้าง’ จากก้นครัวต่างแดนเหล่านี้ติดไปด้วย พกไว้รับรองอุ่นใจกว่าแน่นอน
‘Fry Up’ จานอุดมโปรตีนและไขมัน จาก ‘อังกฤษ’
อาหารแก้เมาค้างที่สายดริงก์จากแดนผู้ดียกให้เป็นเมนูแก้แฮงก์สุดคลาสสิก มาในรูปแบบเมนูอาหารเช้าที่เรียกกันว่า ‘Fry Up’ เมนูนี้ทานแล้วอิ่มแบบจุกๆ และอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากวัตถุดิบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว, เบคอน, ไส้กรอก, เห็ดซอเท่ (Sautéed), มะเขือเทศย่าง, ขนมปังปิ้ง, ถั่วกระป๋อง และมันฝรั่งขูดทอด (Hash Browns) สูตรนี้ตกทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูประจำชาติของประเทศอังกฤษ ทั้งนี้เคยมีบริษัทผลิตไข่ไก่แห่งหนึ่งทำวิจัย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในการแก้เมาค้างของเจ้าเมนู Fry Up ด้วย พบว่าคนที่ทานอาหารเช้าจานจัดเต็มนี้ หลังฟื้นจากปาร์ตี้แสนโหดจะรู้สึกดีขึ้นภายใน 3 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารจากโปรตีนและไขมัน ซึ่งเข้าไปเยียวยาสภาพร่างกายที่อิดโรยได้ดี
เมนูปลาทะเลสดๆ
แกล้มรสเปรี้ยว จาก ‘เอกวาดอร์’
‘ปลาทะเลสดๆ มิกซ์กับน้ำมะนาว มะเขือเทศ เกลือ และพริกไทย’ เป็นจานเด็ดรสแซ่บที่มีเสิร์ฟทั่วไปตามร้านอาหารในเมืองริมชายฝั่ง และเมืองท่องเที่ยวของประเทศเอกวาดอร์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหรือแม้กระทั่งคนพื้นที่ที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน มักได้รับคำแนะนำให้ถอนอาการเมาค้างด้วยเมนูนี้เสมอ เพราะทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นคล้ายเมนูยำในบ้านเรา ทั้งนี้ข้อมูลเผยว่าคนเอกวาดอร์นิยมทานเมนูปลาดิบรสแซ่บสไตล์นี้ คู่กับของทานเล่นประเภททอดหรือคั่ว เช่น ข้าวโพดคั่ว หรือกล้ายทอด (กล้าย หรือ Plantain เป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับกล้วย เติบโตดีในทวีปแอฟริกาและประเทศแถบลาตินอเมริกา) นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่นิยมนำมาทานแก้แฮงก์กัน เป็นเมนูประจำชาติที่มีชื่อว่า ‘Encebollado’ ทำจากปลาทะเลใส่หอมแดงดอง โดยอาศัยรสเปรี้ยวจากหอมแดงดองมาช่วยแก้อาการพะอืดพะอม
ซุปไก่และซุปเนื้อวัวรสคล่องคอ จาก ‘เกาหลีใต้’
สูตรอาหารแก้เมาค้างของหนุ่มๆ แดนกิมจิ ทำจากไก่, โสมเกาหลี, ข้าวสาร, และพุทรา โดยนำทั้งหมดมาตุ๋นในหม้อดิน ปรุงรสตามในชอบ เรียกเมนูนี้ว่า ‘Samgyetang (삼계탕)’ เวลาทานต้องยกเสิร์ฟพร้อมหม้อดินแบบกำลังเดือดปุดๆ นอกจากทานเพื่อให้ฟื้นตัวจากพิษโซจูแล้ว ยังนิยมทานเป็นอาหารเช้าในช่วงที่อากาศหนาวจัดด้วย แม้รสชาติโสมจะค่อนข้างขมจนทำให้ซุปนี้ทานยากมากขึ้น แต่จากประสบการณ์ที่นักดื่มส่วนใหญ่ได้ลอง ต่างพูดเป็นเสียงกันว่าหลังซดซุปไปไม่กี่นาที อาการมึนหัวและคลื่นไส้จะหายไปในทันที ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมาค้างแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่ซุปไก่เท่านั้น ชาวเกาหลีใต้ยังนิยมซดซุป ‘Haejang-Guk (해장국)’ ซึ่งทำจากเนื้อวัว, ใส่ไส้กรอกเลือด, เครื่องในวัว และกะหล่ำปลี เพื่อแก้แฮงก์อีกด้วย เป็นสูตรที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โครยอ ราชวงศ์ลำดับแรกของเกาหลีใต้ เดิมทีนิยมทานกันเฉพาะในกลุ่มคนชนชั้นสูง ต่อมารสชาติสุดกลมกล่อมจึงได้ถ่ายทอดมาสู่สามัญชน
ซุปกระดูกวัวและช็อกโกแลตร้อน จาก ‘โคลัมเบีย’
ซุปสูตรโคลัมเบียอย่าง ‘Caldo de Costilla’ เมื่อซดร้อนๆ ก็ช่วยให้หายใจโล่งและฟื้นจากอาการเมาค้างได้ดี คนท้องถิ่นถึงกับยกให้เป็นสูตรแก้แฮงก์ที่ปลุกสายดริงก์จากความตายได้เลยทีเดียว ส่วนผสมที่ช่วยให้ออกฤทธิ์ได้ดีขนาดนี้ได้มาจากกระดูกวัว, มันฝรั่ง, หอมใหญ่, กระเทียม และยี่หร่า โดยนำทุกอย่างมาตุ๋นรวมกันแล้วปรุงรสตามใจชอบ โรยผักชีสดๆ ตบท้าย ตักเสิร์ฟตอนยังร้อนจัด ปล่อยให้ควันหอมฉุยปะทะใบหน้าสักพัก แล้วซดตอนยังอุ่นๆ อยู่ จะให้ความรู้สึกสบายท้อง สำหรับใครไม่ทานเนื้อวัว ชาวโคลัมเบียยังได้แนะนำเมนูแก้เมาค้างที่ทานกันได้ทุกเพศทุกวัยอย่าง ‘Hot Chocolate’ มาด้วย ดื่มเข้าไปรับรองว่าฟื้นตัวได้ดีไม่แพ้เมนูของคาวเลย
ปลาเฮร์ริงม้วนกับผักดองสดรสเปรี้ยว จาก ‘เยอรมนี’
ชาวเยอรมันจัดการอาการคลื่นไส้หลังจัดหนักกับปาร์ตี้ ด้วยเมนูท้องถิ่นทางตอนเหนือของประเทศ อย่าง ‘Rollmops’ เมนูนี้มีพระเอกคือปลาม้วนสอดไส้ผักดอง เป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวเยอรมันตั้งแต่อดีต โดยในฤดูที่ปลาเฮร์ริง (Herring) ชุกชุม จะนำมาดองเพื่อให้เก็บไว้กินได้นาน เวลาดองจะแร่เนื้อปลาพร้อมหนังออกเป็นแผ่นตามยาว จากนั้นนำมาม้วนโดยสอดไส้หัวหอมหรือแตงกวาไว้ตรงกลาง แล้วใช้ไม้กลัดเพื่อยึดทุกอย่างเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมที่ได้ลงดองในโหลหรือหม้อดินบรรจุน้ำเกลือนานอย่างน้อย 2 วัน ก็พร้อมทาน ทั้งนี้คนท้องถิ่นนิยมทาน Rollmops แบบสดๆ บางคนก็ทานแกล้มกับผักดองและครีมเปรี้ยว หากคุณไม่ทานดิบสามารถนำไปปรุงสุกด้วยการอบหรือรมควัน แล้วทานคู่กับขนมปังคล้ายเบอร์เกอร์ก็ได้ เมนูนี้ยังนิยมทานเป็นมื้อหลักในสวีเดน สก็อตแลนด์ และเนเธอแลนด์อีกด้วย
ซุปกระเพาะวัวและน้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว จาก ‘บัลแกเรีย’
ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงของชาวบัลแกเรีย มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำท้องถิ่นอย่าง ‘Rakia’ เป็นเครื่องดื่มหลัก มื้อแรกหลังกระดก Rakia แบบเต็มที่ นักดื่มมักถอนพิษเหล้าด้วยการซุปกระเพาะวัวร้อนๆ เมนูนี้เรียกกันว่า ‘Shkembe Chorba’ (หรือ Tripe Soup) ปรุงง่ายๆ ด้วยการตุ๋นกระเพาะวัวกับนมสด, กระเทียม, น้ำส้มสายชู, พริกไทย, พริกแดง, น้ำมันเล็กน้อย และเกลือ ตั้งไฟทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็พร้อมทาน นิยมทานหลังดื่มหรือไม่ก็ทานเป็นกับแกล้มไปพร้อมกันเลย ส่วนอีกเมนูก็นิยมไม่แพ้กันนั่นคือ ‘น้ำกะหล่ำปลีเปรี้ยว (Sour Cabbage Juice)’ โดยนำกะหล่ำปลีมาหมักกับโยเกิร์ต น้ำเปล่า และเกลือ เพื่อถนอมอาหารไว้กินช่วงฤดูหนาวของทุกปี เมนูนี้มีงานวิจัยรองรับด้วยว่าสามารถลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งได้
เครื่องดื่มเกลือแร่ชดเชยการสูญเสียน้ำ จาก ‘สวีเดน’
หากเกิดอาการแฮงก์จนบ้านหมุนหลังกลับจากปาร์ตี้ที่ประเทศสวีเดนล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไป สายดริงก์ที่นี่มียาสามัญประจำตัวคือ ‘Bakis’ เกลือแร่ยี่ห้อดังของประเทศ เพียงนำเมล็ดเกลือแร่มาละลายน้ำแล้วดื่มก่อนเข้านอน เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป เนื่องจากเวลาดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปปริมาณมาก ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปในปริมาณมากเช่นกัน เมื่อดื่มเกลือแร่แล้วจะทำให้รู้สึกดีขึ้นตอนตื่นนอน ถือเป็นไอเทมจำเป็นที่หนุ่มสาวชาวสวีเดนหลายคน พกติดกระเป๋าเวลาเดินทางไปแฮงก์เอาต์ต่างประเทศด้วย
น้ำมะเขือเทศรสร้อนแรงในตำนาน
จาก ‘ฝรั่งเศส’ และ ‘สหรัฐอเมริกา’
‘Bloody Mary’ เครื่องดื่มค็อกเทลชื่อดังที่รู้จักกันดีในหลายประเทศ ถูกนำมาบันทึกในตำราถอนพิษสุราของฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ด้วยฤทธิ์สัมผัสรุนแรงและโดดเด่นจากวอดก้า, ซอสวูสเตอร์เชีย, ซอสทาบาสโก, น้ำมะเขือเทศ, เกลือ, พริกไทยดำ, และพริกชี้ฟ้า ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกร้อนวูบวาบ จมูกโล่ง เหมือนได้สร่างเต็มตา ตำนานเล่าว่าค็อกเทลชนิดนี้คิดค้นโดยบาร์เทนเดอร์ชาวอเมริกัน ประจำโรงแรมชื่อดังอย่าง เซนต์ รีจิส (St.Regis) ชื่อเมนูมีการแฝงนัยการเสียดสีพระราชประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ จากกรณีที่เคยสั่งล่าและสังหารโหดผู้คนที่หันไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโปแตสแตนต์ โดยให้สีแดงของน้ำมะเขือเทศเป็นตัวแทนของเหตุการณ์นองเลือด อย่างไรก็ตามมีบางหลักฐานค้านว่าความจริงแล้ว เครื่องดื่มชนิดนี้เพียงแค่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากชื่อของดาราภาพยนตร์คนดังของฝรั่งเศสในอดีต กระทั่งมีการพัฒนารสชาติจนเป็นที่ติดอกติดใจของนักดื่มจนมาถึงปัจจุบัน
นมเปรี้ยวสูตรพิเศษและน้ำแตงกวาดอง จาก ‘รัสเซีย’
ตัวช่วยแก้อาการเมาค้างที่ชาวเมืองหมีขาวอย่างรัสเซียแนะนำคือ ‘Milk Kefir’ เป็นนมเปรี้ยวสูตรพิเศษของท้องถิ่น ทำจากหัวเชื้อนม Kefir ซึ่งประกอบไปด้วยยีสต์และกรดแล็กติก (Lactic) ผสมกับนมวัวหรือนมแกะสดๆ จนได้เป็นมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป ทั้งยังเป็นเมนูเฮลธ์ตี้ที่ชาวรัสเซียนิยมทานเพื่อดีท็อกซ์ร่างกายอีกด้วย นอกจากนั้นรสเปรี้ยวที่โดดเด่นยังช่วยลดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ดี ที่รัสเซียยังมีวัฒนธรรมการดื่ม ‘น้ำแตงกวาดอง’ แก้เมาค้าง ซึ่งได้ผลดีเช่นกัน คล้ายเป็นการเติมเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
เมนูแปลกลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ จาก ‘มองโกเลีย’
เมนูชวนขนลุกของมองโกเลียอย่าง ‘ลูกตาแกะดองใส่น้ำมะเขือเทศ’ หรือ A Pair of Pickled Sheep Eyes in Tomato Juice ก็แก้อาหารเมาหัวทิ่มได้ดีชะงัดนัก อย่างไรก็ตามในทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัตถุดิบหลักอย่างมะเขือเทศน่าจะเป็นฮีโร่ของเมนูนี้มากกว่า เพราะอุดมไปด้วยโซเดียมและโพแทสเซียม ช่วยให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ทดแทนส่วนที่ถูกขับออกไป เหมือนเวลาเราทานเกลือแร่บรรเทาอาการท้องร่วงที่ทำให้ร่างกายเสียน้ำในปริมาณมาก ส่วนการใส่ลูกตาแกะลงไปด้วยน่าจะเป็นวัฒนธรรมการกินของชาวมองโกเลียมากกว่า ดังนั้นเวลาไปเที่ยวที่ประเทศนี้แล้วแฮงก์จนเสียการทรงตัว ตื่นเช้ามาอาจเลือกทานแค่น้ำมะเขือเทศสดๆ สักแก้วก็เพียงพอ แต่หากสนใจเมนูแปลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากหาเมนูท้องถิ่นเมนูนี้มาลอง ก็ไม่ว่ากัน
นอกจากพกสูตรอาหารแก้เมาค้างไปด้วยเวลาเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว หนุ่มๆ สายปาร์ตี้ยังสามารถใช้วิธีเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนจัดเต็มกับการดริงก์แบบหลุดโลกได้ ด้วยการทานอาหารจำพวกแป้งและไขมันรองท้องไปก่อน เนื่องจากเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ ส่วนใครที่คอไม่แข็ง การดื่มแอลกอฮอล์สลับกับน้ำเปล่าก็ช่วยให้เมาช้าลงได้ แต่หากดื่มต่างอาบ ชนแก้วปนกันมั่วแบบไม่เลือกแล้วล่ะก็ เมนูแก้แฮงก์เมนูไหนก็คงเอาไม่อยู่