Search
Close this search box.
แนะนำหนังเกย์ น่าดู

แนะนำหนังเกย์ น่าดู ที่ให้มากกว่าความสนุก แต่ยังได้แง่คิดที่ดี

Thomas Thailand ชวนมาดูเรื่องราวหลากหลายมุมมองของหนังเกย์ที่แฝงไปด้วยเรื่องของความรัก แง่คิด ครอบครัว เพื่อน รวมไปถึงปัญหารอบด้านที่พวกเขาต้องประสบพบเจอ ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดผ่านหนังเกย์ที่ดูแล้วครบทุกฟีลลิ่ง สนุก เข้มข้น เศร้า เจ็บปวดแต่ยังสวยงาม น่าติดตาม จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นเราตามไปดูพร้อมกันเลยครับ

Holding the man (2015) หนังเกย์ฟีลกู้ดที่สร้างจากเรื่องจริง!
  1. Holding the man (2015) หนังเกย์ฟีลกู้ดที่สร้างจากเรื่องจริง!

หนังเกย์แนวดราม่าโรแมนติกจากประเทศออสเตรเลีย Holding the man หรือชื่อไทยว่า ในอ้อมกอดเขา โดยดัดแปลงมาจากหนังสือต้นฉบับในชื่อเดียวกันของ Timothy Conigrave (ทิโมธี คอนิเกรฟ) เป็นเรื่องราวของชายคู่รัก Timothy Conigrave (ทิม) และ John Caleo (จอห์น) ที่มีความสัมพันธ์ให้แก่กันตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น เรียนมัธยมปลาย ช่วงประมาณยุค 60’s- 80’s ค่อย ๆ เล่าไปจนถึงตอนที่ทั้งคู่เติบโต และเริ่มมีเวลาด้วยกันน้อยลงจากการติดเชื้อ HIV ซึ่งในช่วงนั้นโรคนี้ได้แพร่ระบาดในกลุ่มรักร่วมเพศและคู่รักจำนวนมาก โดยรวมแล้วนับเป็นหนึ่งในลิสต์หนังเกย์ที่ดีมาก ๆ เลยครับ เล่าตั้งแต่จีบกัน จนถึงต้องลาจากกันไป เป็นเรื่องราวที่ทั้งน่ารัก ซึ้งกินใจ พร้อมมอบแรงบันดาลใจในแง่มุมความรักดี ๆ แบบของคู่นี้อีกด้วย

ผู้กำกับ: Neil Armfield

นักแสดง: Ryan Corr, Sarah Snook, Francesco Ferdinandi

ช่องทางรับชม: Netflix

King Cobra (2016) หนังเกย์เล่าถึงเซ็กซ์ในชีวิตจริง ที่ไม่เป็นดั่งในหนัง
  1. King Cobra (2016) หนังเกย์เล่าถึงเซ็กซ์ในชีวิตจริง ที่ไม่เป็นดั่งในหนัง

King Cobra คิงคอบร้า เปลื้องผ้าให้ฉาวโลก หนังเกย์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ Sean Paul Lockhart หรือ Brent Corrigan นักแสดงหนังเกย์ชื่อดัง เป็นเรื่องราวที่มีความเกี่ยวพันกับธุรกิจหนังเกย์ผู้ใหญ่ โดย Sean Lockhart (ฌอน) เด็กหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากเข้าวงการ ได้พบกับ Stephen (สตีเฟน) ผู้ก่อตั้งสตูดิโอชื่อ Cobra Video เขาได้ชักชวนให้ฌอนมาเป็นพระเอกหนังเกย์ ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมกันสร้างคาแรกเตอร์ให้ณอนในชื่อว่า Brent Corrigan (แบรนท์ คอร์ริแกน) แน่นอนว่าเขาเป็นที่สนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับค่ายคู่แข่งอย่าง Joe และ Harlow ผู้ที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะดึงตัวแบรนท์ คอร์ริแกน มาอยู่ค่ายของตัวเอง นี่แหละครับจุดเริ่มต้นความสนุกที่นำไปสู่เรื่องราวที่เราอาจไม่คาดคิด

ผู้กำกับ: Justin Kelly

นักแสดง: Garrett Clayton, Christian Slater, Molly Ringwald

ช่องทางรับชม: Netflix

Moonlight (2016) หนังเกย์ผิวสี คว้ารางวัลออสการ์
  1. Moonlight (2016) หนังเกย์ผิวสี คว้ารางวัลออสการ์

หนังเกย์เรื่อง Moonlight ถูกแปลงบทมาจากละครเวทีเรื่อง In Moonlight Black Boys Look Blue ของ Tarell Alvin McCraney จะเรียกว่าหนังเกย์เรื่องนี้เป็นฟอร์มของหนังนอกกระแสก็ว่าได้ ด้วยความที่หนังนำแสดงโดยคนผิวสี เล่าเรื่องราวชีวิตของ Chiron (ไชรอน) ชายหนุ่มผิวดำ ตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเขาโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีนักในย่านไมอามี ทั้งถูกรังแก อยู่กับมาเฟียค้ายา มีแม่ที่ติดยาอย่างหนัก เขาต้องแบกรับความรู้สึก พร้อมความคาดหวังของสังคมรอบตัวเอาไว้ ที่น่าสนใจคือการดำเนินเรื่องที่มุ่งไปยังการค้นหาตัวตนของไชรอน ใครที่รู้สึกอยากเบือนหน้าหนีหนังเกย์รักหวานแหวว เรื่องนี้ควรค่าแก่การดูที่สุดแล้วครับ ดราม่า ได้แง่คิดแฝงด้วยปรัชญา เล่าเรื่องดี กระชับ แถมภาพสวยมาก ๆ และที่สำคัญได้รับรางวัลออสการ์ในหลายสาขาอีกด้วย

ผู้กำกับ: Barry Jenkins

นักแสดง: Trevante Rhodes, André Holland, Janelle Monáe, Ashton Sanders, Jharrel Jerome, Naomie Harris, Mahershala Ali

ช่องทางรับชม: –

Beach Rats (2017) หนังเกย์แนว Coming of age
  1. Beach Rats (2017) หนังเกย์แนว Coming of age

ใครกำลังมองหาหนังเกย์ที่ดูแล้วฟีลกู้ด ไม่ได้รักหวานฉ่ำ หรือมืดมนต์จนหดหู่ Beach Rats เป็นหนังเกย์ที่ตอบโจทย์มาก! ดูง่าย ภาพสวย ซึ่งเส่นห์ของเรื่องนี้อยู่ที่การใช้ภาพเล่าเรื่องการค้นหาตัวตนของ Frankie ที่กำลังสับสนกับเพศสภาพของตัวเอง ใช้ชีวิตไปวัน ๆ กลางวันเดินเล่นที่ชายหาด พลบค่ำหน่อยก็เที่ยวผับริมทะเล ดื่มเหล้า จีบสาวไปเรื่อย ๆ การดำเนินเรื่องเหมือนเรากำลังติดตามชีวิตของเด็กหนุ่มคนนึง พอมีฉากเปลือยร่างอยู่บ้างซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทำให้เขาได้ค้นหาคำตอบให้ตัวเอง ใครเป็นคอหนังอินดี้ต้องถูกใจแน่นอน แถมหนังเรื่องนี้ยังได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาล Sundance และเข้าชิงอีกหลายรางวัลในสายหนังอินดี้ด้วยนะครับ

ผู้กำกับ: Eliza Hittman

นักแสดง: Harris Dickinson, Madeline Weinstein, Kate Hodge

ช่องทางรับชม: –

Call Me by Your Name (2017) หนังเกย์ที่ใครไม่ดู ถือว่าพลาด!
  1. Call Me by Your Name (2017) หนังเกย์ที่ใครไม่ดู ถือว่าพลาด!

หนังเกย์แนวโรแมนติก ดราม่า และ Coming of age ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของ Oliver (โอลิเวอร์) ชายอเมริกัน และ Elio Perlman (เอลิโอ) ชาวอิตาเลียน ที่ต่างวัยและยังมีจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันอีกด้วย มองไม่ออกเลยใช่ไหมว่าพวกเขารักกันได้ยังไง มันเริ่มต้นจากการแชร์ห้องนอนกันระหว่างช่วงฤดูร้อนที่โอลิเวอร์เข้ามาอาศัยที่บ้านของเอลิโอ เพื่อทำงานวิจัยด้านโบราณคดี เรื่องถูกดำเนินไปจนถึงตอนที่ทั้งคู่เริ่มเผยความรู้สึกของตัวเองออกมา จนพัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางครอบครัวของเอลิโอก็รับรู้เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสอง และสามารถยอมรับได้แม้ในยุคนั้น homosexuality ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมมากนักก็ตาม

ผู้กำกับ: Luca Guadagnino

นักแสดง: Armie Hammer, Timothée Chalamet, Michael Stuhlbarg, Amira Casar, Esther Garrel, Victoire Du Bois

ช่องทางรับชม: Netflix

God’s Own Country (2017) หนังเกย์จากฝั่งอังกฤษ
  1. God’s Own Country (2017) หนังเกย์จากฝั่งอังกฤษ

หนังเกย์แนวโรแมนติก ดราม่า จากฝั่งประเทศอังกฤษ เรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อว่า Johnny (จอห์นนี่) ที่อาศัยอยู่ในฟาร์มอันห่างไกล พร้อมพ่อและย่า เขาจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีหน้าที่ดูแลครอบครัว แทนที่จะได้ใช้ชีวิตวิถีวัยรุ่นอย่างที่ควรจะเป็น จนวันหนึ่งพ่อของเขาได้รับ Gheorghe (จอร์จี้) เข้ามาช่วยงานในฟาร์ม ทำให้จอห์นนี่ไม่พอใจสักเท่าไหร่ จึงทำให้จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อได้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกัน พวกเขาก็เริ่มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยไม่รู้ตัว เนื้อหาการเล่าเรื่อง รวมถึงการนับเสนอภาพมีความหมายในตัวของมันจนส่งให้หนังเกย์เรื่องนี้ได้รับรางวัลจากเวที British Independent Film Awards 2017 และ Satellite Awards ในปี 2018

ผู้กำกับ: Francis Lee

นักแสดง: Josh O’Connor, Alec Secareanu, Gemma Jones, Ian Hart

ช่องทางรับชม: Netflix

Alex Strangelove (2018) หนังเกย์สุดพิลึกพิลั่น
  1. Alex Strangelove (2018) หนังเกย์สุดพิลึกพิลั่น

รักพิลึกพิลั่นของอเล็กซ์ เป็นหนังเกย์ที่เล่าเรื่องราวของ ‘ Alex Truelove’ (อเล็กซ์ ทรูเลิฟ) เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย และมีแฟนสาวที่น่ารัก แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเกย์หนุ่มอย่าง Elliot (เอลเลียต) เข้ามาทำให้เขาต้องสับสนในรสนิยมของตัวเอง จนส่งผลต่อความสัมพันธ์กับแฟนสาว การดำเนินเรื่องค่อนข้างเน้นไปที่บทสนทนาที่เปิดเผยตั้งแต่แรกเริ่มถึงการพูดถึงเพศสัมพันธ์ ส่งถึงคนดูให้รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งการตัดสินใจของอเล็กซ์ก็นำมาสู่แง่คิดบางอย่างที่เป็นเสน่ห์ให้หนังเกย์เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่น

ผู้กำกับ: Craig Johnson

นักแสดง: Daniel Doheny, Antonio Marziale, Madeline Weinstein, Joanna Adler, William Ragsdale, Daniel Zolghadri

ช่องทางรับชม: Netflix

Love, Simon (2018) หนังเกย์ฉบับวัยรุ่นไฮสคูล
  1. Love, Simon (2018) หนังเกย์ฉบับวัยรุ่นไฮสคูล

อีเมลลับฉบับไซมอนเป็นหนังเกย์ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Simon vs. the Homo Sapiens Agenda โดย Becky Albertalli แนวโรแมนติก ดราม่า และ Coming of age ดำเนินเรื่องราวชีวิตของ Simon (ไซมอน) เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตธรรมดา ๆ กับครอบครัว และมีเพื่อนที่น่ารัก แต่เขามีความลับอยู่ข้อนึงนั่นก็คือเขาไม่เคยบอกใครว่าเขาเป็นเกย์ เขาได้แต่ระบายความรู้สึกกับเพื่อนชื่อ Blue (บลู) ผ่านอีเมลโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวตนของกันและกัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาถูกแบล็กเมล ทำให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป

ผู้กำกับ: Greg Berlanti

นักแสดง: Nick Robinson, Jennifer Garner, Josh Duhamel

ช่องทางรับชม: Netflix

Dear Ex (2018) หนังเกย์จากฝั่งไต้หวัน
  1. Dear Ex (2018) หนังเกย์จากฝั่งไต้หวัน

รักเก่า ใครมาก่อน ชื่อภาษาไทยของหนังเกย์แนวคอมเมดี้ ดราม่า จากฝั่งไต้หวัน ที่จะพาให้ทุกคนไปสัมผัสกับในอีกรูปแบบของความรักที่นำสมัยมากสำหรับโลกยุคปัจจุบัน เรื่องราวพูดถึงผู้ชายแมน ๆ คนหนึ่งที่กล้ายอมรับว่าตัวเองรักเพศเดียวกัน เล่าผ่าน 3 ตัวละครหลัก คือ เกาอวี้เจี๋ย เกย์หนุ่มนักแสดงละครเวที, หลิวซานเหลียน มนุษย์แม่ที่ขี้บ่น และซ่งเฉิงซี ลูกชายของหลิวซานเหลียน ซึ่งทั้ง 3 คนนี้มาเกี่ยวข้องกันโดยมี ซ่งเชิงหยวน ที่แต่งงานมีลูกกับหลิวซานเหลียน แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจจะกลับไปหาคนรักเก่าอย่าง เกาอวี้เจี๋ย อีกครั้ง เสน่ห์ของหนังเกย์เรื่องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การถ่ายทอดเรื่องราวที่แสนจะตลกร้ายในประเด็นที่โคตรจริง และฝีมือการแสดงที่ส่งให้คนดูเข้าใจความรู้สึกอันซับซ้อนของตัวละคร อีกทั้งยังการันตีด้วยรางวัลจากเวทีม้าทองคำ (Golden Horse Awards) รางวัลใหญ่ในวงการหนังภาษาจีน จากทั้งฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่

ผู้กำกับ: Mag Hsu และ Hsu Chih-yen

นักแสดง: Roy Chiu, Hsieh Ying-xuan, Spark Chen, Joseph Huang

ช่องทางรับชม: Netflix

Green Book (2018) หนังเกย์ที่คว้า 3 รางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
  1. Green Book (2018) หนังเกย์ที่คว้า 3 รางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

หนังเรื่องนี้เป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ครั้งที่ 91 ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม , สมทบชายยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม แม้จะไม่ได้เป็นการบอกตรง ๆ โจ่งครึ่มว่าเป็นหนังเกย์ แต่เชื่อว่าคนที่ดูน่าจะพอเดาออกว่าเป็นยังไง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงของนักดนตรีผิวสี Don Shirley (ดอน เชอร์ลีย์) กับคนขับรถชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียนอย่าง Tony Lip (โทนี ลิป) ทั้งคู่ต้องตระเวนเดินทางไปทำการแสดงด้วยกันทั่วตอนใต้ของอเมริกา โดยมีหนึ่งสิ่งที่นำทางคือ Green Book (หากย้อนไปในปี 1930-1960 คนผิวสีในอเมริกาจะต้องพกหนังสือ The Negro Motorist Green Book หรือ Green Book แนะนำสถานที่ที่เป็นมิตรกับคนผิวสี เพราะในช่วงนั้นมีการเหยียดผิวรุนแรงมาก) การเล่าเรื่องจะเน้นโฟกัสที่มิตรภาพของทั้งคู่ที่ต่างสีผิวกัน เรียกได้ว่าครบรสทั้งลึกซึ้ง เจ็บปวด ตีแผ่ความจริง สนุก และฟีลกู้ด

ผู้กำกับ: Peter Farrelly

นักแสดง: Viggo Mortensen, Mahershala Ali, Linda Cardellini

ช่องทางรับชม: Netflix

สำหรับใครที่อยากดูหนังเกย์แบบยาว ๆ เนื้อเรื่องเข้มข้น เรามีอีกสองเรื่องเป็นซีรีส์มาแนะนำ เรื่องแรก Elite (TV Series 2018) ปัจจุบันซีซัน 4 แล้ว กระแสยังแรงดีไม่มีตกเลย ดูได้ใน Netflix ส่วนอีกเรื่องเป็นซีรีส์เกาหลี ดูสนุกแบบสบาย ๆ To My Star (2021) ดูได้ใน LINE TV และ Viu

SHARE

RELATED POSTS

รวมฮิตการ์ตูนญี่ปุ่นสุดโปรดที่คนยุค 90’s จะต้องคิดถึง การ์ตูนญี่ปุ่นสมัยใหม่แม้จะมีให้เลือกชมมากมายและเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างง่ายดาย…